วันนี้ (29 ม.ค.) ดอยช์แบงก์จับมือ บล.ทิสโก้ร่วมลงทุนตั้งบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ดอยช์ ทิสโก้ ให้บริการงานวิจัย และที่ปรึกษาการลงทุนแก่นักลงทุนสถาบันและต่างประเทศ หวังดันมาร์เกตแชร์สถาบันจาก 5% ขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของประเทศ
สำหรับบริษัทใหม่ บล.ทิสโก้ จะถือหุ้น 51% ดอยซ์ แบงก์ ถือ49% ทั้งสองฝ่ายจะส่งตัวแทนมาร่วมเป็นคณะกรรมการและบริหาร เพื่อให้บริการนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ที่ต้องการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
"เราโอนทีมงานฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ และที่ปรึกษาการลงทุน ในส่วนสถาบันของบริษัท มารวมกับทคมงานดอยซ์แบงก์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และขยายฐานลูกค้า ขณะที่ทีมวิจัยของรายย่อย ก็ยังมีอยู่และจะสามารถทำงานให้ข้อมูลแก่นักลงทุนได้ขึ้น" นายไพบูลย์ นลินทรางกรู กประธานเจ้าหน้าที่บริหารบล.ทิสโก้กล่าว
ทั้งนี้การดำเนินงานของบริษัทใหม่ ในด้านมาต์เกตแชร์จะถูกนำมาคำนวณรวมกับบล.ทิสโก้ ซึ่งทำให้เป้าหมายในปีนี้ของบริษัทจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น3-4% จากปีก่อนที่3% ขณะทีมาร์เกตแชร์ในส่วนสถาบันบล.ทิสโก้อยู่ทีระดับ5% แต่บริษัทหลักทรัพย์ทีมีลูกค้าสถาบันอันดับ1ใน3 มีมาร์เกตแชร์ระดับ10% กว่า นั่นหมายถึงบล.ทิสโก้ตัองการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในลูกค้ากลุ่มนี้ร่วมเท่าตัว
"ปีก่อนเรามีสัดส่วนลูกค้ารายย่อยกับสถาบัน50:50 ปีนี้เราก็หวังจึโตทั้ง2ด้าน ข้อมูลการลงทุนลูกค้ารายย่อยกับสถาบันต่างกัน เราต้องตอบให้ตรงโจทย์ เดี๋ยวนี้ลูกค้าสถาบันใจประเทศให้ความสนใจลงทุนต่างประเทศมากขึ้น เราจะเอาแตฟังCNN แล้วมาพูดไม่ได้ ขณะเดียวกันการร่วมกับ ดอยซ์ แบงก์ก็จะช่วยให้เรามีลูกค้าสถาบันในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งกลุ่มที่เราสนใจ คือ ฮ่องกง สิงคโปร์ สหรัฐ ออสเตรเลีย เกาหลี ญี่ปุ่น และแคนนาดา ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งแบบเทรดดิ้ง และลงทุนระยะยาว"
ส่วนทิศทางตลาดหุ้นไทย นายไพบูลย์ กล่าวว่า ทางดอยซ์ แบงก์ ประเมินดัชนีหุ้นไทยปีนี้ 1,650 จุด โดยเม็ดเงินลงทุนยังไหลเข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไทยในปีก่อนก็ให้ผลตอบแทนสูงสุดในกลุ่ม ขณะทีP/E ยังอยู่ที่13 เท่า ถือว่ายังต่ำเมื่อเทียบกับทั้งภูมิภาค ซึ่งอยู่ในระดับ 15 เท่า
นอกจากนี้นักลงทุนต่างประเทศยังมองว่าประเทศไทยยังน่าสนใจเข้าลงทุน ด้วยอัตราการเติบโตต่อเนื่องจากสภาพคล่องของเงินทุน จีดีพีขยายตัวเฉลี่ย5% การเมืองที่เสถียรภาพ และมีมาร์เกตแคปในปัจจุบัน 12 ล้านล้านบาท
