ASTVผู้จัดการรายวัน - ปตท.สผ.สนใจซื้อหุ้นเพิ่มในแหล่งโรวูม่า ออฟชอร์ แอเรีย วัน ที่โมซัมบิก จากเดิมถือหุ้นอยู่ 8.5% หลังพาร์ตเนอร์ 2 รายจ่อขายหุ้น 20% หากราคาเหมาะสม ยันบริษัทฯ มีสามารถกู้เงินได้ 3 พันล้านเหรียญ
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) เปิดเผยว่า บริษัทฯ พิจารณาโอกาสที่จะเข้าไปเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการโมซัมบิก โรวูม่า ออฟชอร์ แอเรีย วัน จากปัจจุบันที่ถือหุ้นอยู่ 8.5% หลังจากพาร์ตเนอร์ 2 ราย คือ Anadarko และ Videocon ประสงค์ขายหุ้นที่ถืออยู่ฝ่ายละ 10% ให้แก่ผู้ที่สนใจ โดยเสนอขายหุ้นในราคาที่ไม่น้อยกว่าราคาที่ ปตท.สผ.เคยซื้อหุ้นจาก Cove Energy ที่หุ้นละ 240 เพนซ์ โดยมีบริษัทพลังงานขนาดใหญ่ให้ความสนใจ
บริษัทฯ มีสิทธิ์ในการเข้าซื้อหุ้นก่อน (Pre-Emptive Right) เนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ ซึ่งบริษัทจะตัดสินใจซื้อหุ้นเพิ่ม ต่อเมื่อราคาซื้อขายหุ้นเป็นสำคัญ โดยยอมรับว่าสัดส่วนหุ้นที่เสนอขาย 20% นั้นสูงเกินกว่าที่ ปตท.สผ.จะซื้อทั้งหมดได้ และหากราคาซื้อขายหุ้นสูงเกินไป บริษัทก็ตัดสินใจไม่ซื้อได้
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความสามารถในการกู้เพิ่มเติมได้อีก 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ หากพบว่ามีโครงการปิโตรเลียมที่ดีก็พร้อมที่จะเข้าไปลงทุน แต่ยังคงนโยบายที่จะไม่เพิ่มทุนจดทะเบียนใน 3 ปีข้างหน้า หลังจากได้บริษัทได้เพิ่มทุนเมื่อปลายปีที่แล้ว เพื่อนำเงินไปชำระคืนหนี้เงินกู้ที่ใช้ซื้อ Cove Energy ทำให้อัตราหนี้สินต่อทุนลดลงเหลือ 0.35 เท่า
ในปีที่ผ่านมา ปตท.สผ.ซื้อหุ้น Cove Energy ที่ระดับราคา 240 เพนซ์ต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดย Cove Energy มีสินทรัพย์หลักคือ การถือครองสัดส่วนร้อยละ 8.5 ในแปลงสัมปทานโรวูม่า ออฟชอร์ แอเรีย วัน ที่สาธารณรัฐโมซัมบิก โดยแปลงสัมปทานดังกล่าวเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ (World Class Gas Discovery) ที่จะพัฒนาเป็นก๊าซแอลเอ็นจี และยังถือหุ้นอีกร้อยละ 10-25 ในแปลงสัมปทานน้ำลึก 7 แปลงในเคนยาด้วย
ทั้งนี้ แหล่งก๊าซฯ ในโรวูม่า ออฟชอร์ แอเรีย วันมีแผนจะพัฒนาและสร้างโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) บนบก แล้วส่งออกมาจำหน่ายในต่างประเทศ โดยเฟสแรกจะส่งออกแอลเอ็นจีปริมาณ 10 ล้านตันในปี 2561
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังศึกษาโอกาสที่จะเข้าไปลงทุนโครงการเชลล์แก๊ส และเชลล์ออยล์ในต่างประเทศด้วย ซึ่งพิจารณาอยู่หลายแหล่ง คาดว่ามีความชัดเจนในปีนี้
นายเทวินทร์กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าปริมาณการขายที่ระดับ 3.1 แสนบาร์เรลต่อวัน คิดเป็นการเติบโตประมาณ 13% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มีปริมาณการขายระดับ 2.76 แสนบาร์เรลต่อวัน โดยปีนี้มีปริมาณปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นจากแหล่งมอนทารา ออสเตรเลียที่คาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ในปลาย มี.ค.นี้ และตั้งเป้าการผลิตแหล่งสิริกิติ์ (เอส 1) ในระดับเกิน 3 หมื่นบาร์เรลต่อวัน
สำหรับแผนการลงทุน 5 ปีข้างหน้านี้ (2556-2560) จะใช้เงินทุนประมาณ 24,671 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปีนี้ลงทุน 5,809 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อใช้รักษาระดับการผลิตโครงการต่างๆ ในอ่าวไทย และใช้ในการเพิ่มปริมาณการผลิตจากแหล่งปิโตรเลียมใหม่
ทั้งนี้ ธนาคารญี่ปุ่นในฐานะเจ้าหนี้ ปตท.สผ.ยอมยืดหนี้จำนวน 500 ล้านเหรียญสหรัฐออกไป 2ปี โดยจะชำระคืนหนี้ในปี 2560 แทน ทำให้การชำระคืนหนี้ไม่กระจุกตัวอยู่ในปีใดปีหนึ่งมากเกินไป