xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.สผ.คาดปีหน้ายอดขายปิโตรเลียมโต 10% หลังพลาดเป้าปีนี้อยูู่ที่ 2.75 แสนบาร์เรล/วัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - ปตท.สผ.ตั้งเป้าปีหน้าการผลิตปิโตรเลียมโตขึ้น 10% อยู่ที่ 3.3 แสนบาร์เรล/วัน ขณะที่ยอดขายปิโตรเลียมจะโตใกล้เคียงกัน จากปีนี้ที่มียอดขายเฉลี่ยวันละ 2.75 แสนบาร์เรล ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มากเนื่องจากแหล่งมอนทาราเลื่อนไป พร้อมเผยแผนดำเนินธุรกิจในอนาคตเน้นรักษาระดับการผลิตที่อ่าวไทย และเร่งพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมฯ ในเมียนมาร์ และอื่นๆ

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัทฯ คาดว่าจะมีกำลังการผลิตปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นอีก 10% จากปีนี้ที่มีกำลังการผลิตปิโตรเลียมเฉลี่ย 3 แสนบาร์เรลเรล/วัน เนื่องจากมีกำลังการผลิตปิโตรเลียมใหม่จากแหล่งมอนทารา ออสเตรเลีย ในไตรมาส 1/2556 ประมาณ 2.4 หมื่นบาร์เรล/วัน แหล่งซอติกาที่เมียนมาร์กำลังผลิต 300 ล้าน ลบ.ฟ./วัน ในช่วงปลายปี 56 แหล่งบงกชใต้ผลิตอยู่ 320 ล้าน ลบ.ฟ./วัน ผลิตได้เต็มปี และแหล่งสิริกิติ์ก็มีการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3 หมื่นบาร์เรล/วัน โดยเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมาแหล่งสิริกิติ์ผลิตน้ำมันดิบได้สูงสุดอยู่ที่ 3.34 หมื่นบาร์เรล/วัน

ขณะที่ยอดขายปิโตรเลียมในปี 2555 เฉลี่ยอยู่ที่ 2.75 แสนบาร์เรล/วัน สูงกว่าปีก่อนที่มียอดขายปิโตรเลียมที่ 2.65 แสนบาร์เรล/วัน แต่ก็ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่บริษัทฯเคยตั้งไว้ต้นปีนี้ว่าจะมียอดขายปิโตรเลียมที่ 2.84 แสนบาร์เรล/วัน เนื่องจากแหล่งมอนทาราเลื่อนการผลิตเชิงพาณิชย์จากครึ่งหลังปี 2555 เป็นต้นปี 2556

นายเทวินทร์กล่าวต่อไปว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจของ ปตท.สผ.ใน 5 ปีข้างหน้า (2556-2560) จะมุ่งให้ความสำคัญในการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของ (ออแกนิก โกรท) โดยปีหน้ามีการผลิตแหล่งน้ำม้นดิบที่แหล่งมอนทารา และแหล่งซอติกา ปี 2556 มีกำลังการผลิตที่แหล่งปิโตรเลียมในแอลจีเรีย เร่งทยอยพัฒนาแหล่งออยล์ แซนด์ ที่แคนาดา แหล่งแคชเมเปิล ที่ออสเตรเลีย และแหล่ง Rovuma Offshore Area 1 สาธารณรัฐโมซัมบิก คาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2561

นอกจากนี้ บริษัทฯ เน้นสำรวจแหล่งปิโตรเลียมจากช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการเข้าไปซื้อแหล่งปิโตรเลียมขนาดใหญ่ทั้งออยล์แซนด์ และโมซัมบิก ทำให้บริษัทฯ มีปริมาณสำรวจปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นมาก และพยายามรักษาระดับการผลิตปิโตรเลียมที่อ่าวไทย โดยจะมีการลงทุนสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่ใกล้แหล่งเดิม พร้อมทั้งหาลู่ทางการลงทุนใหม่ด้วย

“ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ฝ่ายบริหารจะเสนอคณะกรรมการบริษัทฯ เพื่ออนุมัติแผนการลงทุน 5 ปี และแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยแผนการลงทุนในแปลง Rovuma ที่โมซัมบิกใน 5 ปีข้างหน้าบริษัทฯ จะใช้เงินลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะผลิต LNG ได้ 10 ล้านตัน/ปี โดยแหล่งเงินจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานและโปรเจกต์ไฟแนนซ์”

นายเทวินทร์กล่าวต่อไปว่า ในปี 2563 บริษัทฯ คาดว่าจะมีการผลิตปิโตรเลียมที่ 6 แสนบาร์เรล/วัน หากพิจารณาจากโครงการต่างๆ ที่มีอยู่ในมือ ซึ่งทิศทางการลงทุนของบริษัทฯ จะให้ความสำคัญต่อแหล่งปิโตรเลียมในไทยเป็นอันดับแรกเพื่อรักษาระดับการผลิต โดยปัจจุบันผลิตอยู่ 2.5 แสนบาร์เรล/วัน หรือคิดเป็น 80% ของกำลังการผลิตรวม

รองลงมาคือ กลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะเมียนมาร์ ซึ่งมีโครงการผลิตปิโตรเลียมในพม่าแล้ว 2 แปลง และอยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 5-6 แปลง ส่วนการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ทั้งบนบกและทะเลในเมียนมาร์นั้นก็มีพันธมิตรมาชวน ปตท.สผ.เข้าไปร่วมทุนด้วย ซึ่งบริษัทฯ ก็ไม่ได้ปิดกั้น และพร้อมที่จะเข้าร่วมทุน สำหรับแหล่งนาทูนาที่อินโดนีเซียก็มีโอกาสที่จะเข้าไปพัฒนา แต่ยังไม่มีข้อสรุปในเร็วๆ นี้

การลงทุนในออสเตรเลียทั้งแหล่งมอนทารา และแคชเมเปิล โครงการออยล์ แซนด์ในแคนาดา ซึ่งปัจจุบันผลิตบิทูเมนอยู่ 1.6 หมื่นบาร์เรล/วัน จะเพิ่มขึ้นเป็น 7 หมื่นบาร์เรล/วันในอีก 5 ปีข้างหน้า และการลงทุนในแถบแอฟริกา

สำหรับการขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเฉพาะเจาะจงซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทนั้น พบว่าผู้ถือหุ้นเดิมได้แสดงความจำนงในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนสูงกว่า 2 เท่าของมูลค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งหมดที่เสนอขาย (ไม่รวมส่วนที่ ปตท.จองซื้อตามสิทธิ) ทำให้บริษัทฯ สามารถระดมทุนได้ทั้งหมด 9.23 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จะโอนเข้าบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้จองซื้อได้วันที่ 17 ธ.ค.นี้ และเริ่มเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นได้ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค. 55

นางสาวเพ็ญจันทร์ จริเกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงินและการบัญชี บมจ.ปตท.สผ. กล่าวว่า ในปีหน้าการขายปิโตรเลียมของบริษัทฯ จะโตใกล้เคียงกับกำลังการผลิตฯ ที่ 10% หรือใกล้เคียง 3 แสนบาร์เรล/วัน ส่วนเงินที่ได้จากกาขายหุ้นเพิ่มทุนนั้น ประมาณ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐจะนำมาชำระเงินกู้ระยะสั้นที่ใช้ในการซื้อ Cove Energy และที่เหลือจะใช้ในการลงทุนสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีแผนจะปรับโครงสร้างการเงินใหม่เพื่อไม่ให้การชำระหนี้กระจุกตัวเพื่อลดความเสี่ยง
กำลังโหลดความคิดเห็น