สนข.จัดสัมมนาระดมความเห็นรถไฟความเร็วสูง (กรุงเทพฯ-หัวหิน) ครั้งแรก คาดเสร็จใน พ.ย.นี้ พร้อมชง ครม.ทันที ประเมินลงทุน 8.2 หมื่นล้านบาท เผยมี 4 แนวทางที่ต้องคัดเลือกแนวที่ดีและมีผลกระทบน้อยที่สุด
นางชนินนาถ เก้าสำราญ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบการขนส่งและจราจรสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า สนข.ได้จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 1 โครงการศึกษาและออกแบบรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ครั้งที่ 1 คาดว่าภายในเดือนพฤศจิกายน 2556 จะสรุปแนวทางและนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแนวทางและกรอบงบประมาณลงทุนที่ชัดเจนได้
โดยขณะนี้ สนข.อยู่ระหว่างทำการศึกษาแนวเส้นทาง ซึ่งเบื้องต้นมีอยู่ 4 ทางเลือก ประกอบด้วย แนวทางเลือกที่ 1 เริ่มจากสถานีกลางบางซื่อผ่าน จ.นครปฐม จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี และสิ้นสุดที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 225 กม. แนวทางเลือกที่ 2 เริ่มจากสถานีกลางบางซื่อไปตามแนวเขตทางรถไฟสายแม่กลอง ผ่าน จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรสงคราม และไปบรรจบกับแนวเส้นทางรถไฟสายใต้เดิมที่ อ.ปากท่อ สิ้นสุดที่ อ.หัวหิน ระยะทาง 190 กม.
แนวทางเลือกที่ 3 เริ่มจากชุมทางตลิ่งชัน ใช้พื้นที่เขตทางถนนกาญจนาภิเษก และถนนพระรามที่ 2 ผ่าน จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรสงคราม และไปบรรจบกับแนวเส้นทางรถไฟสายใต้เดิมที่ อ.ปากท่อ สิ้นสุดที่ อ.หัวหิน ระยะทาง 200 กม. และแนวทางที่ 4 เริ่มจากชุมทางตลิ่งชัน ใช้พื้นที่เขตทางถนนกาญจนาภิเษก และถนนเพชรเกษมบางส่วนแล้วใช้แนวเส้นทางใหม่ ผ่าน จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรสงคราม ไปบรรจบกับแนวเส้นทางรถไฟสายใต้เดิมที่ อ.ปากท่อ และสิ้นสุดที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 198 กม. โดยมูลค่าลงทุนเบื้องต้นประมาณ 82,000 ล้านบาท
สำหรับขั้นตอนการศึกษาแนวทางเลือกดังกล่าวนั้น ขณะนี้มีความคืบหน้าประมาณ 20% คาดว่าจะสามารถสรุปได้ตามแผนภายในเดือนพฤศจิกายน 2556 โดยประมาณเดือนกรกฎาคมนี้ การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) จะสามารถสรุปได้ ทั้งนี้ หากรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-หัวหิน แล้วเสร็จจะเชื่อมต่อโครงข่ายการเดินทางสู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมธุรกิจ การท่องเที่ยวของภาคใต้ตอนบนให้เติบโตอย่างรวดเร็ว รวมทั้งขยายความเจริญสู่เมืองตามแนวเส้นทาง และสร้างโอกาสใหม่ให้ธุรกิจท้องถิ่น ธุรกิจ SMEs และ OTOP นำไปสู่การสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
