เอเอฟพี - สิงคโปร์และมาเลเซียแถลงเปิดโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมกรุงกัวลาลัมเปอร์กับเกาะสิงคโปร์ วันนี้(19) ซึ่งทำให้ความมุ่งหวังที่ว่าอาเซียนจะมีระบบรถไฟเชื่อมต่อไปถึงจีนแผ่นดินใหญ่เริ่มใกล้ความจริงเข้ามา
นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง แห่งสิงคโปร์ และนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก แห่งมาเลเซีย เอ่ยถึงประโยชน์ที่ทั้งสองชาติจะได้รับร่วมกันจากโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางระหว่างเมืองหลวงของมาเลเซียกับเกาะสิงคโปร์ใช้เวลาไม่เกิน 90 นาที และคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในปี 2020
“โครงการนี้ถือเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ในเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งจะยกระดับการเชื่อมต่อระหว่างมาเลเซียกับสิงคโปร์” แถลงการณ์ร่วมระหว่างผู้นำสองชาติหลังสิ้นสุดการหารือทวิภาคีที่สิงคโปร์วันนี้(19) ระบุ
“โครงการรถไฟความเร็วสูงจะนำไปสู่การเติบโตอย่างเข้มแข็ง ความเจริญก้าวหน้า และโอกาสสำหรับทั้ง 2 ประเทศ และจะช่วยให้การเดินทางระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์กับสิงคโปร์เป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว ส่งเสริมความสัมพันธ์ทางธุรกิจ และทำให้ประชาชนสองชาติมีความใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น”
ปัจจุบัน สิงคโปร์และมาเลเซียมีเพียงเส้นทางรถไฟเชื่อมประเทศที่ใช้มาตั้งแต่ยุคอาณานิคมอังกฤษ ซึ่งจะจอดรับส่งผู้โดยสารตามเมืองใหญ่ๆในมาเลเซีย
ทั้งนี้ ผู้นำสองประเทศยังไม่เปิดเผยงบประมาณที่ใช้ในโครงการดังกล่าว
“เรามีตัวเลขที่ประเมินไว้แล้วเบื้องต้น แต่ผมขออนุญาตไม่เปิดเผย เพราะเกรงจะทำให้คนยึดติดกับตัวเลขเกินไป” นาจิบ กล่าวในงานแถลงข่าวร่วมกับผู้นำสิงคโปร์
“กัวลาลัมเปอร์และสิงคโปร์จะมีส่วนส่งเสริมซึ่งกันและกัน... และโอกาสที่ทั้ง 2 ประเทศจะได้รับนั้นไม่มีขีดจำกัด”
ด้านนายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ก็เอ่ยอย่างอารมณ์ดีว่า ต่อไปคนสิงคโปร์จะสามารถรับประทานอาหารเที่ยงกับมิตรสหายที่กัวลาลัมเปอร์ และกลับมาบ้านได้ภายในวันเดียวกัน
การเดินทางข้ามประเทศด้วยรถไฟความเร็วสูงซึ่งใช้เวลาประมาณ 90 นาทีถือว่าช่วยประหยัดเวลาได้มากเมื่อเทียบกับรถยนต์ซึ่งกินเวลาราว 4 ชั่วโมง และ 5 ชั่วโมงสำหรับรถประจำทาง และแม้ว่าการโดยสารเครื่องบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปสิงคโปร์จะใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง แต่ก็ไม่รวมเวลาที่เสียไปกับขั้นตอนการเช็คอิน, ตรวจคนเข้าเมือง และรับกระเป๋า
สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) มีเป้าหมายที่จะเชื่อมระบบรถไฟระหว่างรัฐสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ ก่อนจะขยายเครือข่ายไปยังจีนหรือแม้กระทั่งอินเดีย