xs
xsm
sm
md
lg

Good Morning News 07/02/13

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



  • เยอรมนีปฏิเสธข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่ต้องการให้ยูโรโซนกำหนดอัตราแลกเปลี่ยน โดยระบุว่า ตลาดควรเป็นผู้กำหนดอัตราแลกเปลี่ยน และยูโรไม่ได้แข็งค่าเกินอดีต อีกทั้ง การแข็งค่าในระยะหลังเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่านักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นในเงินยูโรอีกครั้ง

  • คำสั่งซื้อของผู้ผลิตเยอรมนีในเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.8% จากที่หดตัว 1.8% ในเดือนก่อน    โดยเป็นยอดคำสั่งซื้อจากยุโรปที่เพิ่มขึ้นถึง 7%   แต่ยอดคำสั่งซื้อในประเทศลดลง 1.2%

  • Royal Bank of Scotland Group Plc ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ของอังกฤษ วางแผนจะเรียกคืนโบนัสและเงินรางวัลที่จ่ายพนักงานไปแล้วใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมา หลังจากถูกปรับ 612 ล้านดอลลาร์ ในกรณีปั่นอัตราดอกเบี้ย

  • สำนักงบประมาณสภาคองเกรส เปิดเผยว่า การขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางในปีนี้จะลดลงมาอยู่ที่ 8.45 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ลดลงมาต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการลดงบประมาณรายจ่ายลง โดยคาดว่าการขาดดุลจะลดลงมาอยู่ที่ 616 พันล้านดอลลาร์ในปี 2557 อย่างไรก็ตาม แนวโน้มระยะยาวของการขาดดุลงบประมาณยังมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากงบประมาณรายจ่ายด้านสาธารณสุขและสวัสดิการสังคมจะเพิ่มขึ้นในอนาคต และใน 10 ปีข้างหน้าอาจทำให้สหรัฐขาดดุลถึง 7 ล้านล้านดอลลาร์

  • Texas Instruments (บริษัทไอทีที่มีฐานที่ตั้งในดัลลัส เท็กซัส) ประสบความสำเร็จต่อเนื่องในการเป็นหนึ่งในบริษัทในอเมริกาที่ได้รับการลงคะแนนให้เป็นนายจ้างที่ดีที่สุด  เพราะมีบรรยากาศในการทำงานที่ยอดเยี่ยม สามารถดึงดูดและรักษาคนเก่งๆ ให้อยู่กับบริษัทได้ในท่ามกลางการแข่งขันแย่งชิงตัวอัจฉริยะทางไอที  ซึ่งเบื้องหลังของความสำเร็จคือการบอกกับบรรดาลูกจ้างว่า “จงทำงานให้สำเร็จ แต่ต้องรักและดูแลครอบครัวของคุณด้วย”

  • ยอดค้าปลีกออสเตรเลียเดือน ธ.ค.หดตัวลง 0.2% แตะระดับ 2.142 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% อันเป็นผลจากยอดขายของธุรกิจอาหารที่ลดลงเพราะการจ้างงานชะลอตัวลง

  • รมช.คลังญี่ปุ่น กล่าวว่า การดำเนินมาตรการต่างๆ ของธนาคารกลางญี่ปุ่นเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจและเงินฝืดในขณะนี้ถือว่าเพียงพอแล้ว โดยจะใช้มาตรการต่างๆ ตามที่ประกาศออกมาแล้วต่อไประยะหนึ่ง และหากมีความจำเป็นถึงจะพิจารณาออกมาตรการเพิ่มในอนาคต

  • รอง ผอ.IMF กล่าวว่า การกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% ของธนาคารกลางญี่ปุ่นมีความเหมาะสมสำหรับการทำให้ญี่ปุ่นหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดที่ยาวนาน และเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ว่าการธนาคารกลางคนต่อไปจะต้องระบุแนวทางที่ชัดเจนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่กำหนด

  • ยอดนำเข้ารถยนต์ใหม่ของญี่ปุ่นเดือน ม.ค.เพิ่มขึ้น 11.4% เป็น 19,984 คัน โดยยอดขายของรถยนต์จากบริษัทญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 15.8% และรถยนต์จากบริษัทต่างชาติเพิ่มขึ้น 9.8%

  • คณะรัฐมนตรีจีนเห็นชอบแผนการลดช่องว่างรายได้ของประชาชน โดยจะเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำอย่างน้อย 40% ในระยะยาว ลดการควบคุมอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ เพิ่มงบประมาณด้านการศึกษาและที่อยู่อาศัย  และให้รัฐวิสาหกิจส่งเงินรายได้ให้กับรัฐบาลมากขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจเป็นปัจจัยเสี่ยงด้านความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของประเทศ ทำให้ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างมาก

  • ฮอนด้าประกาศแผนลงทุนในไทยเพิ่มอีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ใหม่ที่ปราจีนบุรี 1.7 หมื่นล้านบาท (กำลังการผลิต 120,000 คัน/ปี) และขยายกำลังการผลิตในโรงงานที่อยุธยาเพิ่มเป็น 300,000 คัน/ปี ทำให้ฮอนด้าจะมีกำลังการผลิตในไทยในปี 2558 รวม 420,000 คัน/ปี  ซึ่งจะจำหน่ายในประเทศ 300,000 คัน และส่งออกอีก 120,000 คัน

  • ผู้ว่า ธปท.ยืนยันว่า ไม่รู้สึกว่าถูกกดดันในการทำงาน โดยทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นการตัดสินใจของ กนงหลังจากก่อนหน้านี้ รมว.คลัง ได้ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการ ธปท.เพื่อเสนอให้ กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อแก้ปัญหาการแข็งค่าของเงินบาท




  • SET Index ปิดตลาดที่ 1,500.35 จุด ลดลง 5.37 จุด หรือ -0.36% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 58,368.76 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,295.70 ล้านบาท ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยอยู่ในแดนลบจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ โดยมีหุ้นกลุ่มรับเหมาที่ขึ้นสวนทางกับตลาด จากความคาดหวังต่อโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ




  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทรงตัวอยู่ในระดับเดิม  โดยมีเพียงบางรุ่นที่ปรับตัวลดลง  -0.02% ถึง -0.01%   สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อายุ 5 และ 10 ปี วงเงิน 3,000 ล้านบาท




  • Richard Bernstein (CEO, Richard Bernstein Advisors)


ช่วงนี้อาจเป็นตลาดกระทิงที่ดีที่สุดในชีวิต เพราะผู้ลงทุนรายย่อยยังกังวลต่อสถานการณ์ต่างๆ ในอนาคต เช่น อัตราเงินเฟ้อ การขาดดุลการคลัง ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐ การยกเลิกมาตรการ QE และการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับต่ำ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้ลงทุนยังให้มูลค่ากับข่าวสารในเชิงบวกต่ำจนเกินไป เพราะจากการวิเคราะห์เราพบว่าปัจจุบันตลาดหุ้นยังมีมูลค่าที่ถูกมาก และเมื่อใดที่รายย่อยเริ่มเชื่อมั่นต่อสถานการณ์และตลาด นั่นจะเป็นสัญญาณเตือนภัยของการเข้าสู่ตลาดหมี”
กำลังโหลดความคิดเห็น