ASTVผู้จัดการรายวัน - มิตรผลเร่งทำแบรนด์เจาะตลาดรีเทลในประเทศอาเซียนทั้งสิงคโปร์ ลาว และเขมร รองรับการเปิดเออีซี ฟุ้งยอดขายปีนี้แตะ 3.8 หมื่นล้านบาท โตขึ้นเล็กน้อยแม้ว่าปีนี้ปริมาณอ้อยเข้าหีบของประเทศลดลงจากภัยแล้งก็ตาม
นางอัมพร กาญจนกำเนิด รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการตลาด กลุ่มมิตรผล เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะเร่งทำแบรนด์มิตรผลเจาะตลาดค้าปลีก (รีเทล) ในประเทศอาเซียนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสิงคโปร์ กัมพูชา และลาว เนื่องจากพบว่าผู้บริโภคในอาเซียนมีความชอบใกล้เคียงคนไทย คือนิยมรับประทานของหวาน และยังเป็นการเตรียมความพร้อมการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 จากเดิมบริษัทฯ ส่งออกน้ำตาลเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมในตลาดเอเชีย
นอกจากนี้จะหันมาทำตลาดรีเทลในจีนด้วย เนื่องจากมิตรผลมีโรงงานผลิตน้ำตาลใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจีน ซึ่งน้ำตาลที่ผลิตได้ในจีนจะขายภายในประเทศทั้งหมด รวมทั้งขยายไปเจาะตลาดในมาเลเซีย และพม่า
โดยปีนี้บริษัทฯ คาดว่าทำตลาดรีเทลแบรนด์มิตรผลในประเทศอาเซียนได้ 2 หมื่นตัน เติบโตปีละ 20% ซึ่งราคาขายปลีกน้ำตาลในไทยนั้นถือว่าต่ำสุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน สร้างความมั่นใจในการเจาะตลาดเออีซีในอนาคต แต่ยอมรับว่าการเจาะตลาดน้ำตาลในอาเซียนยังมีอุปสรรคด้านภาษีนำเข้าสูงถึง 35% แม้ว่าในปี 2558 จะปรับลดลงเหลือ 0% แต่เชื่อว่าจะมีการออกมาตรการกีดกันนำเข้าในรูปอื่นๆ แทน
นางอัมพรกล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขายปีนี้ที่ 3.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย ซึ่งบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าเงินบาทไม่มากนัก เพราะมีการบริหารความเสี่ยงไว้ โดยปีนี้ตั้งเป้าส่งออกน้ำตาล 1.5 ล้านตัน ดังนั้นค่าบาทที่แข็งค่าทุก 1 บาทต่อดอลลาร์จะกระทบรายได้มิตรผล 650 ล้านบาท
นอกจากนี้ ปริมาณผลผลิตอ้อยในประเทศปีนี้จะลดลงจากปีก่อนที่ 97 ล้านตันเหลือเพียง 92-94 ล้านตัน เนื่องจากภาวะภัยแล้งที่เกิดขึ้นในภาคเหนือและภาคกลาง ขณะที่ราคาน้ำตาลในตลาดโลกปีนี้พบว่าอ่อนตัวลงอยู่ระดับ 18-22 เซ็นต์/ออนซ์ เนื่องจากปริมาณการผลิตสูงกว่าความต้องการบริโภค 7-8 ล้านตัน แต่เนื่องจากบราซิลในฐานะผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ของโลกมีการปรับราคาน้ำมันทำให้มีการใช้น้ำตาลทำเอทานอลมากขึ้น ส่งผลให้น้ำตาลส่งออกลดลง และอินเดียก็ประสบปัญหาภัยแล้งทำให้ส่งออกไม่ได้ แต่จีนพบว่ามีการผลิตน้ำตาลเพิ่มขึ้น
ส่วนภาพรวมตลาดน้ำตาลของไทยปีนี้มีการบริโภคอยู่ที่ 2.4 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ารวม 4.5 หมื่นล้านบาท โดยมีการเติบโตปีละ 5-7% จากปีก่อนที่บริโภคน้ำตาล 2.3 ล้านตัน พบว่ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่มมีการใช้น้ำตาลเติบโตขึ้นสูง เนื่องจากมีผู้ผลิตรายใหม่เข้าสู่ตลาด ทำให้อัตราการบริโภคน้ำตาลอยู่ที่ 36 กิโลกรัม/คน/ปี เชื่อว่าภายใน 3 ปีไทยจะมีการบริโภคน้ำตาลใกล้เคียงยุโรป และสหรัฐฯที่ 40 กิโลกรัม/คน/ปี
ทั้งนี้ มิตรผลมีส่วนแบ่งการตลาดน้ำตาลในไทยอยู่ที่ 20% แต่ถ้าเป็นตลาดรีเทลจะอยู่ที่ 35% เนื่องจากบริษัทฯ มีการออกผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค