“แม็ค ยีนส์” จัดเต็ม ทุ่ม 300 ล้านบาทบุกตลาดเสื้อผ้าเต็มสูบ ต่อยอดแม็คยีนส์สู่เสื้อผ้าแฟชั่นรับศึกแบรนด์นอกทะลัก ล่าสุดเปิดตัว “แม็ค พิงค์” เอาใจสาววัยจี๊ดด้วยเสื้อผ้าแนวฟาสต์แฟชั่น มั่นใจดันยอดขายปีนี้เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 30% จาก 3,100 ล้านบาทในปีก่อน
นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็ค กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายยีนส์ “แม็ค ยีนส์” เปิดเผยว่า ปีนี้ทางบริษัทพร้อมใช้งบลงทุนกว่า 300 ล้านบาทสำหรับดำเนินธุรกิจตลอดทั้งปี ซึ่งปีนี้บริษัทจะดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์หลัก คือ 1. พัฒนาและต่อยอด เปิดตัวแบรนด์ใหม่ในเครืออีกประมาณ 3 แบรนด์ จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 2 แบรนด์ คือ แม็ค ยีนส์ และแม็ค เลดี้ 2. ขยายชอป และ 3. เพิ่มช่องทางการเข้าถึงผู้บริโภคใหม่ๆ คือช่องทางออนไลน์ โดยวางตัวเองเป็นผู้จัดจำหน่าย
สำหรับแผนการเปิดตัวแบรนด์ใหม่นั้น ล่าสุดภายในเดือน ก.พ.นี้จะเปิดตัวแบรนด์ “แม็ค พิงค์” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ทั้งวัยรุ่นและคนวัยทำงาน เป็นกลุ่มเสื้อผ้าพร้อมใส่ (Ready to wear) ถือเป็นการขยายตลาดเพิ่ม ระดับราคาโดยเฉลี่ยเริ่มที่ 490-1,990 บาท ตามแผนงานดำเนินงานเบื้องต้นจะวางจำหน่ายในรูปแบบชอปสแตนด์อะโลน 9 จุด และดีพาร์ตเมนต์สโตร์ 16 แห่งทั่วประเทศ ประเดิมชอปแรกที่ซีคอนสแควร์ ด้วยพื้นที่ 70-100 ตารางเมตร และที่เลย ร้อยเอ็ด เป็นลำดับต่อไป ภายใต้งบการตลาดทั้งปี 30 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 100 ล้านบาท ส่วนอีก 2 แบรนด์นั้นจะทยอยเปิดให้ครบภายในครึ่งปีแรก เป็นกลุ่มเสื้อผ้าที่จับกลุ่มผู้หญิงที่มีเคิร์ฟมากขึ้น และกลุ่มเด็ก
“ปีนี้บริษัทเน้นเพิ่มแบรนด์ใหม่ เช่น แม็ค พิงค์ ซึ่งถือเป็นแบรนด์เสื้อผ้าในรูปแบบเรดดี้ทูแวร์ตามกระแสตลาด คู่แข่งหลักคือกลุ่มแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นแนวฟาสต์แฟชั่นที่กำลังเข้ามาในไทยค่อนข้างมากและได้รับความนิยมสูง ทั้งนี้ มั่นใจว่าแม็ค พิงค์ สามารถแข่งขันได้เพราะมีจุดแข็งในเรื่องของคุณภาพที่ดีกว่า ราคาที่ถูกกว่า และเข้าถึงกลุ่มคนไทยได้ดีกว่าทั่วประเทศ”
ส่วนแผนการขยายสาขารวมนั้น ทั้งปีน่าจะขยายเพิ่มราว 100 จุด ถึงสิ้นปีน่าจะมีครบ 600 จุดทั่วประเทศ โดยสาขาที่จะขยายจะเน้นขนาด 80-100 ตารางเมตร จากเดิมมีขนาด 60 ตารางเมตร โดยแผนการเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่นั้น ปีนี้จะให้ความสำคัญต่อช่องทางออนไลน์ชอปปิ้ง ที่ทางบริษัทจะวางตัวเองเป็นผู้จัดจำหน่ายให้กับแบรนด์เสื้อผ้าจากต่างประเทศทางช่องทางออนไลน์เป็นหลัก และมีของแม็ค ยีนส์บ้างเล็กน้อย ซึ่งขณะนี้มีแบรนด์นอกที่ให้ความสนใจให้บริษัทจัดการให้แล้วหลายแบรนด์
นางสาวสุณีกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ปีนี้ทางบริษัทยังพร้อมเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ SET ด้วย หลังจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีผลประกอบการดีเยี่ยม เช่นในปีก่อนที่สามารถปิดรายได้ไปกว่า 3,100 ล้านบาท เติบโต 37% กำไร 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 50% และในปีนี้มั่นใจว่าจะเติบโตอีกไม่ต่ำกว่า 30% ซึ่งการเข้าตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ก็เพื่อต้องการระดมทุนในการนำมาขยายตลาด เพิ่มกำลังผลิต สร้างโรงงาน รองรับการเข้าสู่ตลาดเออีซีในอนาคต จากปัจจุบันเริ่มมีการจำหน่ายในประเทศเพื่อนบ้านบ้างแล้ว เช่น พม่า เขมร และมาเลเซีย