นายอเล็กซี อุลยูคาเยฟ รองประธานธนาคารกลางรัสเซียเปิดเผยว่า ธนาคารจะยังคงซื้อทองต่อไป ขณะที่ธนาคารกำลังพิจารณาการกระจายทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศออกจากสินทรัพย์ประเภท paper asset ที่มองว่ามีความเสี่ยง
ธนาคารกลางรัสเซียมีทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศมากที่สุดเป็นอันดับ 4ของโลก โดยมีมูลค่า 5.30 แสนล้านดอลลาร์ และทุนสำรองดังกล่าวมีกองทุนงบประมาณฉุกเฉิน 2 กองทุนเพื่อป้องกันเหตุการณ์ตื่นตระหนกทางการคลังรวมอยู่ด้วย
ธนาคารกลางซื้อทองคำด้วยเช่นกัน และสัดส่วนทองในทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศก็ใกล้เป้าหมายระยะกลางที่ 10% ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่าธนาคารกลางจะซื้อทองต่อไปหรือไม่
นายอุลยูคาเยฟกล่าวว่า ธนาคารกลางจะซื้อทองต่อไป แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนของทุนสำรองในส่วนของทองหรือไม่
"เราจะซื้อทอง และจะยังคงดำเนินตามแนวทางนี้ต่อไป" เขากล่าว
"นี่เป็นแนวทางการกระจายสินทรัพย์ในสถานการณ์ที่เมื่อการลงทุนในหลักทรัพย์หรือเงินฝากยังคงมีความเสี่ยง"
มูดี้ส์เตือนภาคธนาคารในยุโรปต้องกันสำรองมากขึ้นเผื่อหนี้เสีย
มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศระบุว่า ธนาคารในสเปน, อิตาลี, ไอร์แลนด์ และอังกฤษจำเป็นต้องตั้งสำรองเงินสดมากขึ้นเพื่อรองรับหนี้เสียที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งหมายความว่า ผู้เสียภาษีในยุโรปอาจจะถูกเก็บภาษีอีกครั้ง
ธนาคารในยุโรปได้เพิ่มทุนหลายแสนล้านยูโรเพื่อชดเชยผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นจากหนี้เสียในวิกฤติตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดการเงิน และเงินทุนส่วนใหญ่มาจากรัฐบาล
"เราเชื่อว่า ธนาคารหลายแห่ง โดยเฉพาะในสเปน, อิตาลี, ไอร์แลนด์และอังกฤษต้องการเงินสำรองเพิ่มเติมเป็นจำนวนมากเพื่อสะสางงบดุลของธนาคาร"มูดี้ส์ระบุในรายงานแนวโน้มภาคธนาคารโลกประจำปี 2013
"ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธนาคารบางแห่งได้เลื่อนการยอมรับผลขาดทุนจากหนี้เสียด้วยการปรับโครงสร้างหนี้" รายงานระบุ "แผนยุทธศาสตร์การซื้อเวลาแผนนี้ (ซึ่งผู้ควบคุมกฎระเบียบยอมรับบ่อยครั้ง) จะจำกัดศักยภาพในการปล่อยสินเชื่อใหม่ของธนาคาร และสร้างความเสี่ยงต่อเจ้าหนี้ของธนาคารในยุโรป"
มูดี้ส์ไม่ได้ระบุว่า ธนาคารจะต้องเพิ่มทุนเป็นจำนวนเท่าใด
ด้านฟิทช์ เรทติงส์ระบุว่า ธนาคารอังกฤษอาจจะประมาณการณ์ต่ำเกินไปต่อความเสี่ยงของเงินกู้อสังหาริมทรัพย์ และอาจจะต้องการเงินทุนมากกว่านี้เพื่อแก้ไขเรื่องนี้
มูดี้ส์เชื่อว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ผันผวนสำหรับธนาคารของยุโรป แต่คาดว่าอันดับความน่าเชื่อถือของภาคธนาคารจะยังคงมีเสถียรภาพพอสมควร หลังจากมีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือในปีที่แล้ว
มูดี้ส์ระบุว่า แนวโน้มของธนาคารสหรัฐอยู่ในเชิงลบ อันเป็นผลจากภาวะตลาดบ้านที่ท้าทาย ขณะที่แนวโน้มสำหรับเอเชีย/แปซิฟิก, ประเทศเกิดใหม่ในยุโรป และละตินอเมริกามีเสถียรภาพ
(ข้อมูลจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
T.Thammasak.
ธนาคารกลางรัสเซียมีทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศมากที่สุดเป็นอันดับ 4ของโลก โดยมีมูลค่า 5.30 แสนล้านดอลลาร์ และทุนสำรองดังกล่าวมีกองทุนงบประมาณฉุกเฉิน 2 กองทุนเพื่อป้องกันเหตุการณ์ตื่นตระหนกทางการคลังรวมอยู่ด้วย
ธนาคารกลางซื้อทองคำด้วยเช่นกัน และสัดส่วนทองในทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศก็ใกล้เป้าหมายระยะกลางที่ 10% ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่าธนาคารกลางจะซื้อทองต่อไปหรือไม่
นายอุลยูคาเยฟกล่าวว่า ธนาคารกลางจะซื้อทองต่อไป แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนของทุนสำรองในส่วนของทองหรือไม่
"เราจะซื้อทอง และจะยังคงดำเนินตามแนวทางนี้ต่อไป" เขากล่าว
"นี่เป็นแนวทางการกระจายสินทรัพย์ในสถานการณ์ที่เมื่อการลงทุนในหลักทรัพย์หรือเงินฝากยังคงมีความเสี่ยง"
มูดี้ส์เตือนภาคธนาคารในยุโรปต้องกันสำรองมากขึ้นเผื่อหนี้เสีย
มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศระบุว่า ธนาคารในสเปน, อิตาลี, ไอร์แลนด์ และอังกฤษจำเป็นต้องตั้งสำรองเงินสดมากขึ้นเพื่อรองรับหนี้เสียที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งหมายความว่า ผู้เสียภาษีในยุโรปอาจจะถูกเก็บภาษีอีกครั้ง
ธนาคารในยุโรปได้เพิ่มทุนหลายแสนล้านยูโรเพื่อชดเชยผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นจากหนี้เสียในวิกฤติตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดการเงิน และเงินทุนส่วนใหญ่มาจากรัฐบาล
"เราเชื่อว่า ธนาคารหลายแห่ง โดยเฉพาะในสเปน, อิตาลี, ไอร์แลนด์และอังกฤษต้องการเงินสำรองเพิ่มเติมเป็นจำนวนมากเพื่อสะสางงบดุลของธนาคาร"มูดี้ส์ระบุในรายงานแนวโน้มภาคธนาคารโลกประจำปี 2013
"ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธนาคารบางแห่งได้เลื่อนการยอมรับผลขาดทุนจากหนี้เสียด้วยการปรับโครงสร้างหนี้" รายงานระบุ "แผนยุทธศาสตร์การซื้อเวลาแผนนี้ (ซึ่งผู้ควบคุมกฎระเบียบยอมรับบ่อยครั้ง) จะจำกัดศักยภาพในการปล่อยสินเชื่อใหม่ของธนาคาร และสร้างความเสี่ยงต่อเจ้าหนี้ของธนาคารในยุโรป"
มูดี้ส์ไม่ได้ระบุว่า ธนาคารจะต้องเพิ่มทุนเป็นจำนวนเท่าใด
ด้านฟิทช์ เรทติงส์ระบุว่า ธนาคารอังกฤษอาจจะประมาณการณ์ต่ำเกินไปต่อความเสี่ยงของเงินกู้อสังหาริมทรัพย์ และอาจจะต้องการเงินทุนมากกว่านี้เพื่อแก้ไขเรื่องนี้
มูดี้ส์เชื่อว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ผันผวนสำหรับธนาคารของยุโรป แต่คาดว่าอันดับความน่าเชื่อถือของภาคธนาคารจะยังคงมีเสถียรภาพพอสมควร หลังจากมีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือในปีที่แล้ว
มูดี้ส์ระบุว่า แนวโน้มของธนาคารสหรัฐอยู่ในเชิงลบ อันเป็นผลจากภาวะตลาดบ้านที่ท้าทาย ขณะที่แนวโน้มสำหรับเอเชีย/แปซิฟิก, ประเทศเกิดใหม่ในยุโรป และละตินอเมริกามีเสถียรภาพ
(ข้อมูลจากสำนักข่าว รอยเตอร์)
T.Thammasak.
