- กำไรสุทธิภาคอุตสาหกรรมจีนเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 9.3% มาอยู่ที่ 4.37 แสนล้านหยวน หลังจากเพิ่มขึ้น 5.3% ในเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นปัจจัยบวกสำหรับการลงทุนในเครื่องจักรกับอุปกรณ์โรงงาน และจะช่วยให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวอย่างยั่งยืนมากขึ้น แม้รัฐบาลจะยังไม่มีนโยบายลงทุนขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจก็ตาม
- ราคาเหล็กกล้าในจีนมีแนวโน้มจะลดลงในเดือน มิ.ย.หลังจากปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องในเดือนนี้ โดยปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลต่อราคาเหล็กคือ 1.เศรษฐกิจจีนยังไม่สดใส โดยรัฐบาลยังไม่มีแนวโน้มจะใช้มาตรการกระตุ้น 2.อุปสงค์ในผลิตภัณฑ์เหล็กกล้ายังคงอ่อนแอและยังไม่มีความแน่นอนในอนาคต
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเกาหลีใต้เดือนพ.ค. ปรับตัวขึ้น 2 จุด จากเดือนเม.ย. สู่ระดับ 104 ซึ่งเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันที่อยู่เหนือระดับ 100 สะท้อนว่าผู้บริโภคมีมุมมองเป็นบวกต่อเศรษฐกิจมีมากกว่าที่มีมุมมองเป็นลบ
- สนามบินชางฮี สิงคโปร์ มีปริมาณผู้โดยสารเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น 0.8% หรือ 4.24 ล้านคน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2552 แม้จำนวนเที่ยวบินผ่านสิงคโปร์จะเพิ่มขึ้น แต่การขยายตัวของการจราจรสนามบินกลับลดลง และคาดว่าจะลดลงต่อเนื่อง
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า สถานการณ์หนี้ภาคครัวเรือนมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ขยายตัว 33.9% สินเชื่ออุปโภคบริโภคขยายตัว 17.4% และสินเชื่อเพื่ออสังหาริมทรัพย์ขยายตัว 11.6% ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวได้ดี โดยขณะนี้มีสัดส่วนหนี้สินต่อรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนอยู่ที่ 5.8 เท่า
- มาสด้า เซลล์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ลูกค้าที่จองรถยนต์ในโครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรกได้ปฎิเสธการรับรถเพิ่มขึ้นเป็น 70% โดยมีสาเหตุจากความไม่พร้อมของลูกค้า บริษัทจึงเตรียมหากลยุทธ์ด้านการตลาดเพื่อดึงกำลังซื้อ และได้ลดการผลิตบางส่วน เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด
- สถาบันการเงินต่างชาติปรับลดคาดการณ์จีดีพีไทยปีนี้ โดยมีสาเหตุจากตัวเลข GDP ในไตรมาสแรกของปีนี้หดตัวลง รวมถึงแรงส่งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลดลงและจากความล่าช้าในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับปัญหาค่าเงินบาทที่กระทบกับค่าเงินบาท
- SET Index เมื่อวันก่อนปิดที่ 1,593.10 จุด ลดลง 14.36 จุด หรือ -0.89% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 48,220.16 ล้านบาท โดยดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน จากแรงกดดันจากต่างประเทศที่ต่อเนื่องมาจากสัปดาห์ที่แล้ว โดยเฉพาะท่าทีของเฟดต่อมาตรการ QE ที่นักลงทุนมีความกังวลว่าอาจจะมีการยกเลิกมาตรการ ซึ่งเป็นการส่งผลกระทบในเชิงลบต่อตลาดโดยตรง
- โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น กล่าวว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้เข้าสู่ช่วงการปรับฐานอย่างชัดเจน หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีลดลงไปแล้วกว่า 7% โดยตั้งแต่เดือน พ.ย. ดัชนีได้ปรับเพิ่มขึ้นไปกว่า 80% เนื่องจากนโยบายเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ ที่ได้ให้คำมั่นว่าจะยุติภาวะเงินฝืดด้วยนโยบายการเงินและการคลังที่เด็ดขาด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วงแคบๆระหว่าง -0.01% ถึง 0.01% ในทุกช่วงอายุ สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท.อายุ 1 เดือน 3 เดือน และ 6 เดือน วงเงินรวม 78,000 ล้านบาท
- IMF เปิดเผยว่า ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางรัสเซียและคาซัคสถานซื้อทองคำมาถือครองเพิ่มเติม โดยรัสเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีทองคำสำรองมากที่สุดเป็นอันดับ 7 ของโลกได้ซื้อทองคำเพิ่ม 8.4 ตัน ทำให้ขณะนี้มีปริมาณทองคำสำรองทั้งสิ้น 990 ตัน ส่วนคาซัคสถานได้ซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 2.6 ตัน ส่งผลให้ปริมาณทองคำสำรองเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 125.5 ตัน โดยหลังจากที่ราคาทองคำลดลงอย่างรุนแรงในรอบ 30 ปี ถือเป็นโอกาสทองของธนาคารกลางหลายประเทศที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำ
- John Ulzheimer (CEO ของ SmartCredit.com) “หลายต่อหลายคนเคยได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีจากธุรกรรมต่างๆกับธนาคาร ตั้งแต่การขอสินเชื่อไปจนถึงหนี้บัตรเครดิต แต่แม่สอนผมว่า อย่าไปกลัวธนาคาร จงเรียนรู้และเข้าใจระบบการเงินให้แตกฉาน เพราะมันคือทักษะที่ทุกคนในโลกปัจจุบันจำเป็นต้องมี”
