แมงเม้าท์ เล่าอินไซด์ ประจำวันที่ 7 มกราคม 2556 มาแล้วจร้า อกอีแป๊นแล่นแตก ตะลึงอย่างแรง กับ ตลาดหุ้นไทย ที่ถูกกระทิงสิงจัด แถมเป็นกระทิง เฮี้ยน ซะด้วย ก็พ่อเจ้าพระคุณเล่น มุทะลุ ทะยานทำสถิติทะลุ 1420 จุดขึ้น นี่คือดัชนีที่สูงที่สุดในรอบ 17 ปีเลยนะเนี่ย นับตั้งแต่ปี 2539
เอาไปเลย 3 คำ กับ ภาวะหุ้นในวันนี้ “หุ้น..เหนือ..เมฆ” จ๊ากกก...ไม่เกี่ยวกับ ละคร เนือเมฆ ช่อง 3 ที่ หายวับ อย่า เหนือเมฆ โดยไม่มีตอนจบนะ..อะจึ๋ยๆๆๆ
เคยบอกกันหลายๆ ครั้งแล้วว่า การที่หุ้นไทยทะยานขึ้นมา 1400 จุดได้ ใครกลัวก็ขายทำกำไรได้บางส่วน แต่ถ้าไม่หลุดอย่าพึ่งขาย...ปล่อยให้หุ้นทะยานไปเรื่อยๆ ดีกว่าไหม ทนกำไรกันหน่อยก็ได้นะตัวเธอ เพราะ “อิทธิพล” ของกระแสเม็ดเงินต่างชาติ หรือ ฟันด์โฟลว์ มันยังโหมกระหน่ำเข้ามา...ที่ตลาดหุ้นไทยทุกวี่ทุกวัน
แม้ว่าจะมีข่าวไม่ดีออกมาบ้างอย่างเช่นเรื่องของ การที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บางกลุ่มอยากเลิกมาตรการอัดฉีดเงิน หรือ QE ในปีนี้ และ ขวากหนามข้างหน้าคือการขึ้นเพดานหนี้สาธารณะ แต่ข่าวร้ายนั้นทำให้ตลาดร่วงกันแค่ระหว่างวัน ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับมาอย่างแรงเหมือนคนกลัวไม่ได้ของเสียอย่างนั้น ... “รถด่วน” ขบวนนี้ออกจาก”ชานชลา” ไวเจงๆ พร้อมๆ วอลุ่มกระซื้อขายกระฉูดมากมาย
ขอย้ำ ตลาดหุ้นช่วงนี้เป็นเรื่องของกระแสเม็ดเงินโลกจริงๆ จะเล่นก็ต้องตามให้เป็น ล่าสุดก็ต้องดูว่ามีแววที่เม็ดเงินจะไหลออกมาจากพันธบัตรสหรัฐ หรือไม่ เมื่อ นาย Robert D. Boroujerdi นักกลยุทธ์ของ Goldman Sachs ออกจดหมายเตือนลูกค้าให้ระวังการขาดทุนจากการลงทุนในพันธบัตรและตราสารหนี้ หลังเห็นดอกเบี้ยของพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีที่ขึ้นไปเกือบแตะระดับ 2% จากข่าวเฟดจะเลิก QE ปีนี้
อย่าลืม เมื่ออัตราดอกเบี้ยขึ้น ราคาพันธบัตรและตราสารหนี้ที่ซื้อขายในตลาดจะร่วงลง แถมตา Boroujerdi เตือนซะหนักว่าถ้าดอกเบี้ยแตะ 3% เมื่อไหร่ ราคาพันธบัตรจะดิ่งลงจนทำให้คนถือขาดทุนถึง 25% อย่างนี้คนที่ถือพันธบัตรอยู่กับแล้วใจเสียว ตื่นข่าว...อาจเอาเงินออกมาลงทุนอย่างอื่น…หุ้นมีโอกาสเป็นเป้าหมายลงทุนอีก
อย่ามองแค่มุมเดียว มีบางคนก็ยังเชื่อว่า QE จะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2014 อย่าง Jan Hatzius นักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs ค่ายเดียวกันแต่มองต่างมุม โดยให้เหตุผลว่า Real Interest Rate (อัตราดอกเบี้ยซึ่งหักอัตราเงินเฟ้อแล้ว) ยังติดลบอยู่มากและอัตราว่างงานที่ยังสูงอยู่นั้นก็จำกัดความเสี่ยงของเงินเฟ้อไปแล้ว นอกจากนี้ ด้วยจำนวนประชากรที่มีอายุมากขึ้นของสหรัฐ บวกกับประสบการณ์ด้านร้ายจากการลงทุนในหุ้นในทศวรรษที่ผ่านมาจะทำให้คนยังเลือกลงทุนในพันธบัตรมากกว่า... แล้วแต่จะเลือกเชื่อนะ
มาดูอีกราย Rich Bernstein หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ Merrill Lynch ออกมาเชียร์หุ้น บอกมีมุมมองที่เป็นบวกอย่างมากต่อตลาดหุ้นในสหรัฐ โดยเชื่อว่ากำลังอยู่ในจุดที่คล้ายกับเมื่อปี 1982 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของตลาดกระทิง (Bull Market) ในช่วง 1982-2000 แต่ Vitaliy Katsenelson จาก Contrarian Edge มองตรงกันข้าม โดยระบุว่าราคาหุ้นยังสูงกว่าที่ควรจะเป็นจริงไป 30% … แล้วแต่ละเลือกเชื่ออีกทีเน้อ
มาดูภาพรวมหุ้นไทยกันบ้างดีกว่าปิดตลาดเที่ยง 1,423.54 จุด นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ชี้แนวรับ 1,415 ส่วนแนวต้าน 1,425-1,430 จุด
ส่วนหุ้นเม้าท์แตกวันนี้มีข่าวลือออกมาในตลาดว่า MAX หรือ ของมือปั้นบริษัทเน่า “ชำนิ จันทร์ฉาย” จะปรับธุรกิจจากเหล็กหนักๆ มาสู่ การเป็นพลังงาน ดูท่าจะมี “พาวเวอร์” บ้างงง ... ขนาดวันนี้ ถูกสั่งเทรดเงินสด ก็ยังไม่ร่วง ... เอา จับตาดูละกัน
เอาไปเลย 3 คำ กับ ภาวะหุ้นในวันนี้ “หุ้น..เหนือ..เมฆ” จ๊ากกก...ไม่เกี่ยวกับ ละคร เนือเมฆ ช่อง 3 ที่ หายวับ อย่า เหนือเมฆ โดยไม่มีตอนจบนะ..อะจึ๋ยๆๆๆ
เคยบอกกันหลายๆ ครั้งแล้วว่า การที่หุ้นไทยทะยานขึ้นมา 1400 จุดได้ ใครกลัวก็ขายทำกำไรได้บางส่วน แต่ถ้าไม่หลุดอย่าพึ่งขาย...ปล่อยให้หุ้นทะยานไปเรื่อยๆ ดีกว่าไหม ทนกำไรกันหน่อยก็ได้นะตัวเธอ เพราะ “อิทธิพล” ของกระแสเม็ดเงินต่างชาติ หรือ ฟันด์โฟลว์ มันยังโหมกระหน่ำเข้ามา...ที่ตลาดหุ้นไทยทุกวี่ทุกวัน
แม้ว่าจะมีข่าวไม่ดีออกมาบ้างอย่างเช่นเรื่องของ การที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บางกลุ่มอยากเลิกมาตรการอัดฉีดเงิน หรือ QE ในปีนี้ และ ขวากหนามข้างหน้าคือการขึ้นเพดานหนี้สาธารณะ แต่ข่าวร้ายนั้นทำให้ตลาดร่วงกันแค่ระหว่างวัน ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับมาอย่างแรงเหมือนคนกลัวไม่ได้ของเสียอย่างนั้น ... “รถด่วน” ขบวนนี้ออกจาก”ชานชลา” ไวเจงๆ พร้อมๆ วอลุ่มกระซื้อขายกระฉูดมากมาย
ขอย้ำ ตลาดหุ้นช่วงนี้เป็นเรื่องของกระแสเม็ดเงินโลกจริงๆ จะเล่นก็ต้องตามให้เป็น ล่าสุดก็ต้องดูว่ามีแววที่เม็ดเงินจะไหลออกมาจากพันธบัตรสหรัฐ หรือไม่ เมื่อ นาย Robert D. Boroujerdi นักกลยุทธ์ของ Goldman Sachs ออกจดหมายเตือนลูกค้าให้ระวังการขาดทุนจากการลงทุนในพันธบัตรและตราสารหนี้ หลังเห็นดอกเบี้ยของพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีที่ขึ้นไปเกือบแตะระดับ 2% จากข่าวเฟดจะเลิก QE ปีนี้
อย่าลืม เมื่ออัตราดอกเบี้ยขึ้น ราคาพันธบัตรและตราสารหนี้ที่ซื้อขายในตลาดจะร่วงลง แถมตา Boroujerdi เตือนซะหนักว่าถ้าดอกเบี้ยแตะ 3% เมื่อไหร่ ราคาพันธบัตรจะดิ่งลงจนทำให้คนถือขาดทุนถึง 25% อย่างนี้คนที่ถือพันธบัตรอยู่กับแล้วใจเสียว ตื่นข่าว...อาจเอาเงินออกมาลงทุนอย่างอื่น…หุ้นมีโอกาสเป็นเป้าหมายลงทุนอีก
อย่ามองแค่มุมเดียว มีบางคนก็ยังเชื่อว่า QE จะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2014 อย่าง Jan Hatzius นักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs ค่ายเดียวกันแต่มองต่างมุม โดยให้เหตุผลว่า Real Interest Rate (อัตราดอกเบี้ยซึ่งหักอัตราเงินเฟ้อแล้ว) ยังติดลบอยู่มากและอัตราว่างงานที่ยังสูงอยู่นั้นก็จำกัดความเสี่ยงของเงินเฟ้อไปแล้ว นอกจากนี้ ด้วยจำนวนประชากรที่มีอายุมากขึ้นของสหรัฐ บวกกับประสบการณ์ด้านร้ายจากการลงทุนในหุ้นในทศวรรษที่ผ่านมาจะทำให้คนยังเลือกลงทุนในพันธบัตรมากกว่า... แล้วแต่จะเลือกเชื่อนะ
มาดูอีกราย Rich Bernstein หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ Merrill Lynch ออกมาเชียร์หุ้น บอกมีมุมมองที่เป็นบวกอย่างมากต่อตลาดหุ้นในสหรัฐ โดยเชื่อว่ากำลังอยู่ในจุดที่คล้ายกับเมื่อปี 1982 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของตลาดกระทิง (Bull Market) ในช่วง 1982-2000 แต่ Vitaliy Katsenelson จาก Contrarian Edge มองตรงกันข้าม โดยระบุว่าราคาหุ้นยังสูงกว่าที่ควรจะเป็นจริงไป 30% … แล้วแต่ละเลือกเชื่ออีกทีเน้อ
มาดูภาพรวมหุ้นไทยกันบ้างดีกว่าปิดตลาดเที่ยง 1,423.54 จุด นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ชี้แนวรับ 1,415 ส่วนแนวต้าน 1,425-1,430 จุด
ส่วนหุ้นเม้าท์แตกวันนี้มีข่าวลือออกมาในตลาดว่า MAX หรือ ของมือปั้นบริษัทเน่า “ชำนิ จันทร์ฉาย” จะปรับธุรกิจจากเหล็กหนักๆ มาสู่ การเป็นพลังงาน ดูท่าจะมี “พาวเวอร์” บ้างงง ... ขนาดวันนี้ ถูกสั่งเทรดเงินสด ก็ยังไม่ร่วง ... เอา จับตาดูละกัน