หุ้นเช้าปิดที่ 1,471.89 จุด ร่วงลง 12.83 จุด มูลค่าการซื้อขาย 17,114.21 ล้านบาท โดยหลักทรัพย์ 5 อันดับแรกที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส (ADVANC) , บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE), บมจ.ชินคอร์ปปอเรชั่น (INTUCH) , ธนาคารกรุงไทย (KTB) และธนาคารกสิกรไทย (KBANK)
ณัฐวัฒน์ อ้นรัตน์ นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบีไทย กล่าวกับ iBiz Channel ถึงทิศทาง ตลาดหุ้นไทย (21-10-56) ที่ติดลบสวนทางกับภูมิภาค เป็นเพราะความกังวลด้านปัจจัยทางด้านการเมือง จาก การเตรียมนำร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม เข้าสภาในวาระ 2 ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ แต่คาดว่าน่าจะเป็นส่งผลกระทบประมาณ 2-3 วัน
ส่วนทิศทางตลาดหุ้นไทยยังเป็นขาขึ้นอยู่ แนะ หากหุ้นลงเก็บสะสมได้ โดยผลประกอบการที่ดีเกินกว่าคาดของธนาคารจะช่วยหนุนความมั่นใจส่วนหนึ่ง
สำหรับทิศทาง เม็ดเงินต่างชาติ หรือ ฟันด์โฟลว์ ขณะนี้ยังคงไหลเข้าเอเชีย โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น เกาหลี ล่าสุด ที่ฟิลิปปินส์ คาดอนาคตมีสิทธิ์เข้าประเทศไทย ซึ่งจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นอีกประมาณ 2 เดือน
ด้าน รณกฤต สารินวงษ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คันทรี่กรุ๊ป กล่าวกับ iBiz channel เช่นเดียวกันว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยที่ติดลบวันนี้เป็นเพราะปัจจัยการเมืองในเรื่อง พรบ. นิโทษกรรม ที่อาจยืดเยื้อ และจะส่งผลให้หุ้นไทยผันผวน
โดยทิศทางหุ้นไทยจะยังแกว่งตัวในกรอบแนวรับที่ 1465 จุด และ แนวต้านที่ 1485 จุด ส่วน "ฟันด์โฟลว์" ยังมีแรงซื้อในไทยอยุ่ แต่ไม่ได้่มากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัจจัยต่างประเทศ เริ่มคลี่คลาย และ ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังไม่ทอนมาตรการ QE ภายในปีนี้
ทั้งนี้ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐเหลือการประชุมอีก 2 ครั้ง เพราะต้องรอประธานเฟดคนใหม่รับตำแหน่งในช่วงต้นปี ซึ่งจะเป็นช่วงเดียวกับที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ต้องเจรจาขยายเพดานหนี้สาธารณะ และงบประมาณปี 57 รอบใหม่
ณัฐวัฒน์ อ้นรัตน์ นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบีไทย กล่าวกับ iBiz Channel ถึงทิศทาง ตลาดหุ้นไทย (21-10-56) ที่ติดลบสวนทางกับภูมิภาค เป็นเพราะความกังวลด้านปัจจัยทางด้านการเมือง จาก การเตรียมนำร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม เข้าสภาในวาระ 2 ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ แต่คาดว่าน่าจะเป็นส่งผลกระทบประมาณ 2-3 วัน
ส่วนทิศทางตลาดหุ้นไทยยังเป็นขาขึ้นอยู่ แนะ หากหุ้นลงเก็บสะสมได้ โดยผลประกอบการที่ดีเกินกว่าคาดของธนาคารจะช่วยหนุนความมั่นใจส่วนหนึ่ง
สำหรับทิศทาง เม็ดเงินต่างชาติ หรือ ฟันด์โฟลว์ ขณะนี้ยังคงไหลเข้าเอเชีย โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น เกาหลี ล่าสุด ที่ฟิลิปปินส์ คาดอนาคตมีสิทธิ์เข้าประเทศไทย ซึ่งจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นอีกประมาณ 2 เดือน
ด้าน รณกฤต สารินวงษ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คันทรี่กรุ๊ป กล่าวกับ iBiz channel เช่นเดียวกันว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยที่ติดลบวันนี้เป็นเพราะปัจจัยการเมืองในเรื่อง พรบ. นิโทษกรรม ที่อาจยืดเยื้อ และจะส่งผลให้หุ้นไทยผันผวน
โดยทิศทางหุ้นไทยจะยังแกว่งตัวในกรอบแนวรับที่ 1465 จุด และ แนวต้านที่ 1485 จุด ส่วน "ฟันด์โฟลว์" ยังมีแรงซื้อในไทยอยุ่ แต่ไม่ได้่มากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัจจัยต่างประเทศ เริ่มคลี่คลาย และ ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังไม่ทอนมาตรการ QE ภายในปีนี้
ทั้งนี้ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐเหลือการประชุมอีก 2 ครั้ง เพราะต้องรอประธานเฟดคนใหม่รับตำแหน่งในช่วงต้นปี ซึ่งจะเป็นช่วงเดียวกับที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ต้องเจรจาขยายเพดานหนี้สาธารณะ และงบประมาณปี 57 รอบใหม่