จ่อชง ครม.แก้ชดเชยเสียงสุวรรณภูมิอืด

“ชัชชาติ” ขอ 1 เดือนแก้ปัญหาชดเชยเสียงสุวรรณภูมิเพื่อไม่ให้กระทบการก่อสร้างเฟส 2 และรันเวย์ที่ 3 เตรียมรวบรวมปัญหา เสนอ ครม.หาทางออก ด้าน ทอท.เผยจ่ายชดเชยแล้วกว่า 3.8 พันล้านบาทเกือบหมดแล้ว ที่เหลือไม่ยอมรับชดเชยตามมติ ครม.ปี 50 เผยหากปรับมติใหม่เรื่องใหญ่ และกระทบคนที่ชดเชยไปแล้ว

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้าการชดเชยผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า การชดเชยเสียงยังมีปัญหาอยู่ ซึ่งจะขอเวลาประมาณ 1 เดือนเพื่อศึกษาปัญหาที่ผ่านมาและระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวบรวมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาหาแนวทางที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อผู้ได้รับผลกระทบมากสุด โดยในวันที่ 22-23 ธันวาคมนี้จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบการขึ้น-ลงของเครื่องบินว่าจะสร้างมลภาวะทางเสียงในแต่ละพื้นที่มากน้อยเพียงใด

“หลักการแก้ปัญหาชดเชยเสียงสุวรรณภูมิจะต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก พร้อมดูบทบาทว่านโยบายรัฐบาลอยู่ตรงไหน บทบาทของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.อยู่ตรงไหน และต้องดูแลประชาชนให้ครบถ้วนด้วย เพราะหากไม่สามารถแก้ปัญหาการชดเชยเสียงเฟส 1 เสร็จ โครงการในเฟส 2 และรันเวย์ที่ 3 จะถูกต่อต้านจากประชาชนได้ แต่จะให้ตามใจทุกเรื่องก็คงไม่ได้เพราะจะต้องใช้เงินมากเกินไป” นายชัชชาติกล่าว

นายสมชัย สวัสดีผล รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า การชดเชยเสียงสุวรรณภูมิเฟส 1 ยังไม่เรียบร้อยเนื่องจากยังมีกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบบางส่วนต้องการรับชดเชยตามมติ ครม.วันที่ 21 พฤศจิกายน 2549 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 100% ในขณะที่ ทอท.ยึดมติ ครม.ล่าสุดวันที่ 29 พฤศจิกายน 2550 ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และศาลปกครองสูงสุดระบุว่าเป็นการชดเชยที่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นไปตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ ทอท. ซึ่งเห็นชอบกรอบวงเงินชดเชยที่ 11,233 ล้านบาท โดย ทอท.เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เงินที่ชดเชยเป็นเงินของประชาชน ไม่ใช่ของ ทอท. หากจะใช้มติปี 2549 ชดเชยจะต้องเสนอ ครม.ทบทวนมติใหม่ และต้องเสนอผู้ถือหุ้นใหม่ด้วย

ทั้งนี้ ตามมติ ครม.วันที่ 29 พฤษภาคม 2550 อาคารที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับชดเชยรวม 16,317 อาคาร (ก่อสร้างก่อนปี 2544) โดยพื้นที่ NEF มากกว่า 40 ซึ่งมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 641 อาคาร ให้ ทอท.ซื้อสิ่งปลูกสร้างหรือปรับปรุงอาคาร พื้นที่ NEF 30-40 จำนวน 15,676 อาคาร ให้ชดเชยด้วยการจ่ายค่าปรับปรุงอาคาร โดยถึงวันที่ 30 กันยายน 2555 ทอท.ได้จ่ายเงินชดเชยผลกระทบทางเสียงไปแล้ว 3,893.819 ล้านบาท แบ่งเป็นพื้นที่ NEF มากกว่า 40 ชดเชยแล้ว 575 อาคาร เป็นเงิน 754.538 ล้านบาท พื้นที่ NEF 30-40 ชดเชยแล้ว 13,077 อาคาร เป็นเงิน 2,632.744 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่มีปัญหาประมาณ 900 กว่าหลังคาอยู่ในพื้นที่ NEF 30-40 ซึ่งไม่ยอมรับการปรับปรุง แต่ต้องการให้ ทอท.รับซื้อ และบางส่วนอยู่นอกเส้นเสียงแต่ต้องการได้รับการชดเชย ส่วนอีกเกือบ 2,000 รายไม่มีปัญหาเรื่องการชดเชย โดยอยู่ระหว่างติดตามเจ้าของและตรวจสอบเอกสาร