“บุญทรง” เตรียมแถลงชี้แจงข้อสงสัยการขายข้าวจีทูจี พร้อมลากสัญญาเก่าสมัยรัฐบาลที่แล้วมาเปรียบเทียบให้เห็น
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าคาดว่าจะแถลงผลการตรวจสอบสัญญาขายข้าวในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) ของคณะกรรมการเฉพาะกิจที่มี นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานได้ โดยจะตอบคำถามที่มีข้อสงสัยได้ทั้งหมด และจะมีการตรวจสอบสัญญาขายข้าวจีทูจีย้อนหลัง 3 ปี ซึ่งอยู่ในสมัยรัฐบาลชุดที่แล้วมาเปรียบเทียบกับสัญญาขายข้าวจีทูจีปัจจุบันว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร เพราะประเด็นที่สังคมสงสัยคือวิธีการขายข้าวจีทูจี
“ยืนยันว่าหลักการขายข้าวจีทูจีได้ยึดการทำสัญญาที่กรมการค้าต่างประเทศเคยทำมาในอดีต แต่ได้ปรับปรุงวิธีการที่เห็นว่าเป็นจุดบกพร่อง เพื่อให้การระบายข้าวจีทูจีทำได้อย่างคล่องตัวขึ้น”
ส่วนกรณีที่มีฝ่ายค้านระบุว่านายกรัฐมนตรีควรมีส่วนร่วมรับผิดชอบการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์นั้น ยืนยันว่าแม้นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) แต่ได้มอบหมายให้ตนเป็นประธานแทน ซึ่งในการเจรจาขายข้าวรวมทั้งประเด็นเอ็มโอยูขายข้าวจีทูจี นายกรัฐมนตรีจะไม่ได้รับทราบ เพราะเป็นเรื่องที่กรมการค้าต่างประเทศไปดำเนินการ หลังจากได้ข้อสรุปก็นำมาเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็จะทราบข้อมูลพร้อมกับ ครม.
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ฝ่ายค้านอภิปรายเรื่องข้าวจีทูจีไม่มีผลกระทบต่อการระบายข้าวสต๊อกรัฐบาล โดยปีนี้กระทรวงฯ จะสามารถส่งมอบข้าวจีทูจีให้รัฐบาลต่างประเทศได้ตามแผน 1.8 ล้านตันให้แก่ 4 ประเทศ และสามารถนำเงินมาชำระคืนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ครบ 8 หมื่นล้านบาทภายในสิ้นปีได้อย่างแน่นอน ส่วนวิธีการระบายข้าวสต๊อกรัฐบาลที่เหลืออยู่จะมีหลายวิธี ทั้งการขายจีทูจี เปิดประมูล และการขายผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า (เอเฟต) ซึ่งจะเลือกวิธีที่เหมาะสมตามสถานการณ์ต่อไป
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าคาดว่าจะแถลงผลการตรวจสอบสัญญาขายข้าวในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) ของคณะกรรมการเฉพาะกิจที่มี นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานได้ โดยจะตอบคำถามที่มีข้อสงสัยได้ทั้งหมด และจะมีการตรวจสอบสัญญาขายข้าวจีทูจีย้อนหลัง 3 ปี ซึ่งอยู่ในสมัยรัฐบาลชุดที่แล้วมาเปรียบเทียบกับสัญญาขายข้าวจีทูจีปัจจุบันว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร เพราะประเด็นที่สังคมสงสัยคือวิธีการขายข้าวจีทูจี
“ยืนยันว่าหลักการขายข้าวจีทูจีได้ยึดการทำสัญญาที่กรมการค้าต่างประเทศเคยทำมาในอดีต แต่ได้ปรับปรุงวิธีการที่เห็นว่าเป็นจุดบกพร่อง เพื่อให้การระบายข้าวจีทูจีทำได้อย่างคล่องตัวขึ้น”
ส่วนกรณีที่มีฝ่ายค้านระบุว่านายกรัฐมนตรีควรมีส่วนร่วมรับผิดชอบการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์นั้น ยืนยันว่าแม้นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) แต่ได้มอบหมายให้ตนเป็นประธานแทน ซึ่งในการเจรจาขายข้าวรวมทั้งประเด็นเอ็มโอยูขายข้าวจีทูจี นายกรัฐมนตรีจะไม่ได้รับทราบ เพราะเป็นเรื่องที่กรมการค้าต่างประเทศไปดำเนินการ หลังจากได้ข้อสรุปก็นำมาเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็จะทราบข้อมูลพร้อมกับ ครม.
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ฝ่ายค้านอภิปรายเรื่องข้าวจีทูจีไม่มีผลกระทบต่อการระบายข้าวสต๊อกรัฐบาล โดยปีนี้กระทรวงฯ จะสามารถส่งมอบข้าวจีทูจีให้รัฐบาลต่างประเทศได้ตามแผน 1.8 ล้านตันให้แก่ 4 ประเทศ และสามารถนำเงินมาชำระคืนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ครบ 8 หมื่นล้านบาทภายในสิ้นปีได้อย่างแน่นอน ส่วนวิธีการระบายข้าวสต๊อกรัฐบาลที่เหลืออยู่จะมีหลายวิธี ทั้งการขายจีทูจี เปิดประมูล และการขายผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า (เอเฟต) ซึ่งจะเลือกวิธีที่เหมาะสมตามสถานการณ์ต่อไป
