หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบการทุจริต และธรรมาภิบาลวุฒิสภา มีมติออกหนังสือเรียกเอกสารการระบายข้าวไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อให้ข้อมูล และขอดูสัญญาการระบายข้าว โดยกำหนดให้ส่งเอกสารภายในวันพฤหัสนี้
นายไพบูลย์ นิติตะวัน สว.สรรหา และกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบการทุจริตฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงพาณิชย์ แต่มีการส่งรองผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า หรือ อคส.มาชี้แจง โดยผู้บริหาร อคส.ให้ข้อมูลว่า ได้รับคำสั่งจากกรมการค้าต่างประเทศประทับตราลับที่สุด ให้ อคส.ระบายข้าวจำนวนมากให้กับบุคคล หรือ นิติบุคคล โดยระบุชื่อแต่อ้างว่า ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้
นายไพบูลย์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล จึงเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว หากได้เอกสารครบถ้วน คาดว่า ภายใน 2 สัปดาห์จะสามารถหาข้อสรุปได้ และจะนำมาพิจารณา เพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาอีกครั้งว่า การระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 190 วรรค 2 หรือไม่ ที่คณะรัฐมนตรีจะต้องชี้แจง และขอความเห็นจากรัฐสภา เพื่อให้เกิดความถูกต้องและโปร่งใสในการทำสัญญา
สำหรับเอกสารที่คณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบการทุจริตฯ ได้ขอไปที่กระทรวงพาณิชย์ โดยใช้ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของกรรมาธิการวุฒิสภาคือ สัญญาการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี จำนวน 7,300,000 ตัน การทำเอ็มโอยูขายข้าว 8,000,000 ตัน และการทำเอ็มโอยูขายข้าวกับจีนปีละไม่ต่ำกว่า 5,000,000 ตัน เป็นเวลา 3 ปี
นายไพบูลย์ นิติตะวัน สว.สรรหา และกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบการทุจริตฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงพาณิชย์ แต่มีการส่งรองผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า หรือ อคส.มาชี้แจง โดยผู้บริหาร อคส.ให้ข้อมูลว่า ได้รับคำสั่งจากกรมการค้าต่างประเทศประทับตราลับที่สุด ให้ อคส.ระบายข้าวจำนวนมากให้กับบุคคล หรือ นิติบุคคล โดยระบุชื่อแต่อ้างว่า ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้
นายไพบูลย์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล จึงเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว หากได้เอกสารครบถ้วน คาดว่า ภายใน 2 สัปดาห์จะสามารถหาข้อสรุปได้ และจะนำมาพิจารณา เพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาอีกครั้งว่า การระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 190 วรรค 2 หรือไม่ ที่คณะรัฐมนตรีจะต้องชี้แจง และขอความเห็นจากรัฐสภา เพื่อให้เกิดความถูกต้องและโปร่งใสในการทำสัญญา
สำหรับเอกสารที่คณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบการทุจริตฯ ได้ขอไปที่กระทรวงพาณิชย์ โดยใช้ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของกรรมาธิการวุฒิสภาคือ สัญญาการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี จำนวน 7,300,000 ตัน การทำเอ็มโอยูขายข้าว 8,000,000 ตัน และการทำเอ็มโอยูขายข้าวกับจีนปีละไม่ต่ำกว่า 5,000,000 ตัน เป็นเวลา 3 ปี