“ชัจจ์” ตั้ง “ปลัดคมนาคม” ประธานสอบราคาประมูลหัวจักร 20 คัน ชี้ผู้ชนะเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางมากผิดปกติ หวั่นฮั้ว เร่งสรุปใน 1 เดือนไม่กระทบโครงการล่าช้า
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ผลการประกวดราคาจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าพร้อมอะไหล่ ขนาด 20 ตัน/เพลา 20 คัน วงเงิน 3,300 ล้านบาท ซึ่งปรากฏว่า Santi forestry Group ผู้ผลิตจากจีนตอนใต้ (China South Railway) เสนอราคาต่ำสุด 1,916.6 ล้านบาท หรือ 98.08 ล้านบาทต่อคันนั้น เห็นว่าราคาที่ผู้ชนะเสนอนั้นต่ำกว่าราคากลางมากถึง 1,000 ล้านบาทเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ดังนั้นจึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผลการประกวดราคา มีนายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจอีกครั้งก่อนจะเดินหน้าตามขั้นตอนต่อไป
“ราคาที่ผู้ชนะเสนอต่ำมากไป ผมเกรงว่าอาจจะมีการวางแผนทุจริตหรือมีพฤติกรรมมิชอบได้ ดังนั้น ในวันที่ 6 ก.ย.ผมจะเซ็นคำสั่งแต่งตั้งปลัดศิลปชัยเป็นประธานตรวจสอบเรื่องดังกล่าวก่อนคาดว่าใน 1 เดือนน่าจะได้ข้อสรุปว่ามีการกระทำผิดหรือไม่ ซึ่งการตั้งกรรมการสอบดังกล่าวนั้น ไม่ถือว่าทำให้โครงการหยุดชะงัก เพราะขั้นตอนต่างๆ ที่ทางการรถไฟฯ จะดำเนินการนั้นยังคงเดินหน้าต่อไป” พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตามแผนของ ร.ฟ.ท.หลังจากการเปิดซองประกวดราคาแล้วจะสรุปผลเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. ก่อนจะเสนอกระทรวงการคลังพิจารณาข้อเสนอแหล่งเงินกู้ที่ผู้ได้รับคัดเลือกเสนอจึงจะลงนามสัญญาได้ โดยกำหนด 15 เดือนแรกจะต้องส่งมอบหัวจักรคันแรก และส่งครบ 20 คันใน 24 เดือน
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ผลการประกวดราคาจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าพร้อมอะไหล่ ขนาด 20 ตัน/เพลา 20 คัน วงเงิน 3,300 ล้านบาท ซึ่งปรากฏว่า Santi forestry Group ผู้ผลิตจากจีนตอนใต้ (China South Railway) เสนอราคาต่ำสุด 1,916.6 ล้านบาท หรือ 98.08 ล้านบาทต่อคันนั้น เห็นว่าราคาที่ผู้ชนะเสนอนั้นต่ำกว่าราคากลางมากถึง 1,000 ล้านบาทเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ดังนั้นจึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผลการประกวดราคา มีนายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจอีกครั้งก่อนจะเดินหน้าตามขั้นตอนต่อไป
“ราคาที่ผู้ชนะเสนอต่ำมากไป ผมเกรงว่าอาจจะมีการวางแผนทุจริตหรือมีพฤติกรรมมิชอบได้ ดังนั้น ในวันที่ 6 ก.ย.ผมจะเซ็นคำสั่งแต่งตั้งปลัดศิลปชัยเป็นประธานตรวจสอบเรื่องดังกล่าวก่อนคาดว่าใน 1 เดือนน่าจะได้ข้อสรุปว่ามีการกระทำผิดหรือไม่ ซึ่งการตั้งกรรมการสอบดังกล่าวนั้น ไม่ถือว่าทำให้โครงการหยุดชะงัก เพราะขั้นตอนต่างๆ ที่ทางการรถไฟฯ จะดำเนินการนั้นยังคงเดินหน้าต่อไป” พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตามแผนของ ร.ฟ.ท.หลังจากการเปิดซองประกวดราคาแล้วจะสรุปผลเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. ก่อนจะเสนอกระทรวงการคลังพิจารณาข้อเสนอแหล่งเงินกู้ที่ผู้ได้รับคัดเลือกเสนอจึงจะลงนามสัญญาได้ โดยกำหนด 15 เดือนแรกจะต้องส่งมอบหัวจักรคันแรก และส่งครบ 20 คันใน 24 เดือน