รมช.พาณิชย์เผยวิกฤตยุโรปฉุด “ส่งออก” ลดลงต่อเนื่อง เดือน ก.ค.ติดลบ 4.46% ส่วนยอดส่งออก 7 เดือนแรกยังโตติดลบ 0.4% พร้อมคาดส่งออก Q3 อาจติดลบ ต้องรอทบทวนเป้าทั้งปี กลางเดือน ก.ย.นี้เป้าส่งออกที่ 15% เกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ แต่ถ้าไม่ได้เป็นไปตามเป้าที่กำหนดไว้ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้รัฐบาลเสียหน้าเพราะทุกคนทำงานเต็มที่แล้ว แต่ปัจจัยภายนอกอยู่เหนือการควบคุม
นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ คาดการณ์ว่า ภาวะการส่งออกในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ (กรกฎาคม-กันยายน) อาจมีอัตราการเติบโตติดลบในรูปของเงินดอลลาร์ และเป็นบวกเล็กน้อยในรูปของเงินบาท ซึ่งสถิติที่ผ่านมาในช่วงปลายปีจะมีสัญญาณการส่งออกที่ดีขึ้น โดยในช่วง 5 เดือนที่เหลือของปีนี้ (สิงหาคม-ธันวาคม) จะพยายามเร่งผลักดันการส่งออกให้มีมูลค่าเฉลี่ยสูงกว่าเดือนละ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนจะมีการพิจารณาปรับเป้าหมายการส่งออกอย่างเป็นทางการ จากเดิมที่กำหนดว่าการส่งออกจะขยายตัวได้ 15% หรือไม่นั้น จะมีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวในช่วงกลางเดือนกันยายน 2555 นี้ หลังได้ข้อสรุปจากการประชุมร่วมระหว่างนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับคณะทำงานเพื่อผลักดันการส่งออกสินค้า 7 กลุ่ม ในวันที่ 3 กันยายน 2555 และการประชุมหัวหน้าสำนักงานการค้าต่างประเทศ ในวันที่ 10 กันยายน 2555 ซึ่งอาจมีข้อมูลเพิ่มเติม ตลอดจนการแถลงดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
“เมื่อได้ข้อมูลทั้ง 3 ส่วนครบถ้วนแล้วเราจะมาพิจารณาว่าเป้าส่งออกที่ 15 เปอร์เซ็นต์จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ และถ้าใกล้เคียงมากที่สุดจะเป็นเท่าไหร่ แม้การส่งออกในปีนี้จะไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้รัฐบาลเสียหน้า เพราะเชื่อว่าทุกคนพยายามทำงานอย่างเต็มที่ แต่มีปัจจัยภายนอกที่อยู่เหนือการควบคุม เช่น วิกฤตเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป”
สำหรับสถิติการส่งออกของประเทศในช่วงเดือนกรกฎาคมปีนี้ การส่งออกติดลบร้อยละ 4.46 หรือคิดเป็นมูลค่าการส่งออกที่ 19,544 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสินค้าที่มีการส่งออกลดลงมา ได้แก่ ข้าวสารลดลงร้อยละ 28.5 ยางพาราลดลงร้อยละ 33.8 กุ้งแช่แข็งและแปรรูปลดลงร้อยละ 17.8 สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ลดลงร้อยละ 15.4 และสิ่งทอลดลงร้อยละ 14.3 เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปทำให้ประเทศผู้ค้านำเข้าสินค้าไทยลดลง
นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ยังกล่าวถึงการนำเข้าในช่วงเดือนกรกฎาคมว่าขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.73 คิดเป็นมูลค่า 21,290 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลทำให้ดุลการค้าของประเทศในช่วงเดือนกรกฎาคมขาดดุลที่ 1,746 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนตัวเลขสถิติการส่งออกของประเทศในช่วง 7 เดือนแรกของ ปี 2555 การส่งออกยังคงขยายตัวติดลบที่ร้อยละ 0.4 หรือคิดเป็นมูลค่าการส่งออกที่ 131,809 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การนำเข้าขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 คิดเป็นมูลค่ากว่า 143,895 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ดุลการค้าของประเทศในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ขาดดุลที่ 12,086 ล้านเหรียญสหรัฐ
ด้านนายวุฒิชัย ดวงรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อผลักดันการส่งออกให้ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นในช่วงเวลาที่เหลือ เช่น การส่งออกสินค้าในกลุ่มฮาลาล, การผลักดันการค้าภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) กับประเทศต่างๆ การเข้าร่วมกิจกรรมงานแสดงสินค้าใหม่ๆ การส่งเสริมการค้าชายแดน เป็นต้น ซึ่งจะเป็นตัวช่วยเพิ่มยอดการส่งออกในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการปรับฐานข้อมูลการส่งออกสุทธิในปี 2554 ใหม่ หลังจากกรมศุลกากรได้ปรับฐานข้อมูลใหม่เมื่อเดือนกรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา โดยพบว่าการส่งออกในปี 2554 มีมูลค่ารวม 222,579.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากเดิมที่มีมูลค่า 228,825.3 ล้านเหรียญสหรัฐ
