“รมช.พาณิชย์” ระบุวิกฤตหนี้ยุโรป ฉุดส่งออกไทยเดือน มิ.ย.ปรับลงถึง 2.5% ขาดดุลกว่า 500 ล้านดอลลาร์ โดยครึ่งปีแรกขาดดุลทำสถิติสูงสุดประวัติการณ์ ยันสถานการณ์ยังไม่น่าห่วง เพราะตัวเลขนำเข้าเป็นการผลิตเพื่อส่งออก คาดแนวโน้มครึ่งปีหลังส่งออกไทยมีโอกาสฟื้นตัว มั่นใจทั้งปียังโตได้ตามเป้า 15% แน่นอน
นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงภาวะการค้าต่างประเทศเดือนมิถุนายน ส่งออกมีมูลค่า 20,128.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 2.05 จากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 20,678 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.41 จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่การส่งออกในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่า 112,622 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบร้อยละ 1.66 นำเข้ามีมูลค่า 122,966 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.28 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ดุลการค้าช่วง 6 เดือนแรก ขาดดุลรวมทั้งสิ้น 10,344 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงสาเหตุที่ครึ่งแรกของปีนี้ขาดดุลสูงถึง 10,344 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลจากการน้ำเข้าเชื้อเพลิง สินค้าทุน เครื่องมือเครื่องจักรที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย แต่ขาดว่าช่วงครึ่งปีหลังแนวโน้มการส่งออกจะดีขึ้น เฉลี่ยเดือนละ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหากภาวะเศรษฐกิจของยุโรปยังทรงตัวในระดับนี้ เชื่อว่าการส่งออกของไทยในช่วงที่เหลืออยู่แต่ละเดือนจะแตะระดับที่ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะยังคงเป้าหมายการส่งออกไว้ที่ร้อยละ 15
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งผลให้การส่งออกในเดือนมิถุนายน ลดลงมาจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป ส่งผลกระทบต่อการผลิตและการจำหน่ายสินค้าในหลายประเทศที่เป็นตลาดสำคัญของไทย ทั้งญี่ปุ่น สหภาพยุโรป เอเชียใต้ เกาหลีใต้ ไต้หวัน รัสเซียที่นำเข้าสินค้าจากไทยลดลง โดยเฉพาะสินค้าในหมวดเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรที่ปรับตัวลดลงแรง
