xs
xsm
sm
md
lg

“วัตสัน” โหมหนัก 50 สาขาต่อปี ชูไทยฮับเดสติเนชันรับเออีซี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คริช ไอเออร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นทรัล วัตสัน จำกัด
นายใหญ่วัตสันคนใหม่ร้อนวิชา เตรียมขยายสาขาต่อปี 50 สาขาในช่วง 2-3 ปีหลังจากนี้ เหตุมั่นใจศักยภาพประเทศไทยพร้อมเป็นเดสติเนชันรับเออีซี พร้อมเข้าถึงผู้บริโภคให้มากขึ้น บุกหนักซีอาร์เอ็มเพิ่มฐานสมาชิกจาก 1 ล้านคนสู่ 1.5 ล้านคนในปีหน้า มั่นใจรักษาบัลลังก์ในรีเทลกลุ่มเฮลท์แอนด์บิวตี้

นายคริช ไอเออร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นทรัล วัตสัน จำกัด เปิดเผยว่า เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งที่ประเทศไทยได้ราว 4-5 เดือนตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยได้วางยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจในไทยไว้ 2 ส่วนหลัก คือ 1. มุ่งขยายสาขาที่ 50 สาขาต่อปีในระยะ 2-3 ปีหลังจากนี้ 2. มุ่งเพิ่มฐานสมาชิกให้ได้มากที่สุด เพื่อรักษาฐานผู้นำในสถานการณ์ที่คาดว่าจะมีการแข่งขันที่สูงขึ้น

“ปกติวัตสันไม่เคยขยายสาขาสูงถึง 50 สาขาต่อปี แต่หลังจากปีนี้ไปจนถึง 2-3 ปีข้างหน้าวัตสันจะมุ่งขยายสาขาที่ 50 สาขาต่อปีสูงสุดของแผนขยายสาขาตั้งแต่ดำเนินการมา มาจาก 3 ปัจจัย คือ 1. เนื่องจากมองว่าประเทศไทยมีศักยภาพในแง่ของค่าจีดีพีของประเทศที่โตขึ้น 3.5-5% เป็นตัวเลขที่เสถียรมากขึ้น 2. กลุ่มฐานประชากรระดับกลาง ซึ่งเป็นฐานส่วนใหญ่ของประเทศมีกำลังซื้อเพิ่มสูงขึ้น และ 3. ไทยมีศักยภาพในการเป็นทัวริสม์เดสติเนชันของเซาท์อีสต์เอเชียมากที่สุด ยิ่งอีก 2-3 ปีจะเปิดเออีซีมองว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากอาเซียนมาไทยเพิ่มขึ้นอีกมาก ทำให้วัตสันมีความมั่นใจในการขยายสาขามากขึ้นนั่นเอง”

ทั้งนี้ ในส่วนของแผนการขยายสาขาจะเน้นไปในโมเดลขนาดกลางถึงใหญ่ ขนาดตั้งแต่ 180-250 ตารางเมตร และเป็นนิวคอนเซ็ปต์ใหม่ คือ G6 หรือเจเนอเรชัน 6 ที่พร้อมสร้างบริการและเพิ่มประสบการณ์ที่ดีเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น ล่าสุดเปิดให้บริการแล้วที่เมกะบางนา จากแผนการขยายสาขาปีนี้ที่ 50 สาขา 7 เดือนที่ผ่านมาเปิดแล้ว 28 สาขา ถึงสิ้นปีคาดว่าจะมีวัตสันเปิดให้บริการราว 250 สาขาทั่วประเทศ

นายคริช กล่าวต่อว่า แผนการขยายสาขาก็เพื่อเพิ่มฐานสมาชิกให้มากที่สุดนั้น โดยปัจจุบันวัตสันมีสมาชิกแล้วกว่า 1 ล้านราย สิ้นปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 1.2 ล้านรายได้ และในปีหน้ามั่นใจว่าจะทำได้ถึง 1.5 ล้านรายผ่านกิจกรรมทางการตลาด ผ่านกลยุทธ์การทำซีอาร์เอ็มหรือการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าที่เข้มแข็งขึ้น โดยจำนวนกิจกรรมที่ใช้ในปีนี้จะเพิ่มกว่าปีก่อนราว 20%
 
ขณะที่งบการตลาดที่ใช้กับซีอาร์เอ็มจะอยู่ที่ 20-30% เทียบกับงบการตลาดรวมทั้งหมด มั่นใจว่ายิ่งวัตสันเข้าถึงฐานสมาชิกได้มากเท่าไหร่ ยิ่งจะช่วยให้วัตสันรักษาความเป็นผู้นำในตลาดรีเทลเซกเมนต์เฮลท์แอนด์บิวตี้ได้ดียิ่งขึ้น ในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาทำให้การแข่งขันรุนแรงขึ้นก็ตาม

ปัจจุบันลูกค้าสมาชิกทำรายได้ให้บริษัทที่ 50% โดยมียอดการใช้จ่ายต่อบิลสูงกว่าลูกค้าทั่วไป 150% และมีความถี่ในการซื้อสูงกว่าลูกค้าทั่วไป 60% ขณะที่ยอดใช้จ่ายต่อบิลเฉลี่ยปกติอยู่ที่ 200-500 บาท สูงขึ้นจากปีก่อน 4-12% ขึ้นอยู่กับโมเดลของแต่ละสาขา มั่นใจว่าถึงสิ้นปีวัตสันจะยังมีตัวเลขยอดขายเติบโตขึ้น 2 หลักได้


กำลังโหลดความคิดเห็น