“ฐิติกร” รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของปี 2555 รายได้รวมเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว 6.5% กำไรสุทธิ 173 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่แล้วเล็กน้อย แต่เพิ่มขึ้น 27.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2555 ยืนยันแรงส่งจากการฟื้นตัวจากน้ำท่วมในปี 2554 ชัดเจน
น.ส.ปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการบริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) (TK) ผู้ให้สินเชื่อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในเขตกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ TK เติบโตที่ 5.1% หรือ 7,962 ล้านบาท คาดว่าตลอดปีนี้ ยอดการปล่อยสินเชื่อจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 10% ครึ่งปีแรกของปี 2555 รายได้รวม 1,775.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว 10.85% กำไรสุทธิ 308.91 ล้านบาท ลดลงจากปี 2554 ในช่วงเวลาเดียวกัน 2.55%
ในช่วงครึ่งปีแรก ตลาดรถจักรยานยนต์ค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเนื่องจากไตรมาสแรก ยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่องมาจากวิกฤตน้ำท่วม ทำให้ผู้ผลิตยังประสบปัญหาไม่สามารถป้อนสินค้าออกสู่ตลาดได้ ทำให้ไตรมาสแรก ตลาดหดตัวลงประมาณ 0.3% ซึ่งเมื่อเข้าสู่ไตรมาส 2 ผู้ผลิตสามารถผลิตได้เต็มที่ ทำให้ไตรมาส 2 มียอดจำหน่าย 585,487 คัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกถึง 36.73% ครึ่งปีแรกตลาดรวมมียอดจำหน่ายทะลุ 1,100,000 คัน ทำให้ผู้ผลิตส่วนใหญ่มั่นใจปีนี้ตลาดรถจักรยานยนต์ขยายตัวสร้างสถิติใหม่ 2,200,000 คัน ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งมาจากนโยบายของรัฐบาลที่เน้นการกระจายรายได้สู่ประชาชน ทั้งมาตรการค่าแรง 300 บาท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การรับจำนำสินค้าเกษตรในราคาสูง ทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการขยายตัวของตลาดรถจักรยานยนต์
ทางด้าน นายประพล พรประภา รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวถึงการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ว่า TK จะยังคงขยายสาขาอีก 3-4 สาขา เพื่อรองรับการเติบโตของตลาด “นอกจากเราจะรักษาการเติบโตของสินเชื่ออย่างมีคุณภาพแล้ว ในครึ่งปีหลังนี้ เราจะเปิดสาขาเพิ่ม 3-4 สาขา และเรายังจะเสริมทีมงานอีก 350 อัตรา เพื่อรองรับการเติบโต ดังนั้น เรามีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าในปีนี้ บริษัทจะสร้างสถิติยอดขาย และกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ก่อตั้งมา 40 ปี” นายประพลกล่าว
น.ส.ปฐมากล่าวเสริมว่า ในปีนี้ เป็นปีที่บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งมาครบ 40 ปี และเป็นที่ 1 ของอุตสาหกรรมต่อเนื่องมาแล้ว 3 ทศวรรษ ผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ อยู่ในเกณฑ์ดี และเชื่อว่าจะสร้างสถิติสูงสุด ดังนั้น เพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จดังกล่าว บริษัทฯจึงประกาศจ่ายปันผลพิเศษระหว่างกาล 0.37 บาทต่อหุ้น เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นทุกท่านที่ได้ให้การสนับสนุนกิจการของบริษัทให้เจริญเติบโตมาอย่างมั่นคง