ASTVผู้จัดการรายวัน – ฉุดไม่อยู่ “วัตสัน” เพิ่มงบขยายสาขาอีก 19 สาขา ส่งทั้งปีขยายร่วม 43 สาขา ผ่านงบ 460 ล้านบาท สูงสุดตั้งแต่เปิดมา แย้มปีหน้าลงทุนอีกไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ขยายสาขาใกล้เคียงปีนี้
นายโทบี้ แอนเดอร์สัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นทรัล วัตสัน จำกัด เปิดเผยว่า จากภาพรวมตลาดเฮลท์แอนด์บิวตี้ที่มีโอกาสเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง บวกกับศักยภาพและความพร้อมของทางวัตสัน และการเติบโตที่สูงกว่าตลาด เมื่อเทียบกลุ่มโปรดักส์เดียวกันโตขึ้น 9.3% ส่วนตลาดโต 5.9% นั้น ถือเป็นปัจจัยบวกในการดำเนินธุรกิจ
ส่งผลให้จากเดิมตามแผนที่จะขยายสาขาใหม่ปีนี้ที่ 24 สาขานั้น ได้ขยายเพิ่มเป็น 43 สาขา พร้อมใช้งบรวมเป็น 460 ล้านบาท จากต้นปีที่วางไว้ 210 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นอีก 230 ล้านบาท
“วัตสันมีความพร้อมในการลงทุนขยายธุรกิจอยู่แล้ว แต่เมื่อปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะภาพรวมตลาดเฮลท์แอนด์บิวตี้มีโอกาสเติบโตที่ดี เนื่องจากกลุ่มเอจจิ้งมีเพิ่มขึ้น ราคาโปรดักส์เฉลี่ยลดลง เศรษฐกิจโลกฝั่งยุโรปไม่ดี แต่เอเชียถือว่าดี นักท่องเที่ยวหันมาไทยมากขึ้น และไทยไม่มีผลกระทบมากนัก ทำให้เป็นโอกาสของการขยายการลงทุนในการดำเนินธุรกิจส่งผลให้ปีนี้วัตสันมีการขยายสาขามากสุดตั้งแต่ดำเนินการมา”
โดยเฉพาะในไตรมาสสี่นั้น เนื่องจากมีการเพิ่มขยายสาขาใหม่ ทำให้ต้องใช้งบลงทุนรวมกว่า 250 ล้านบาททั้งในการขยายสาขาอีก 15-20 สาขาที่เหลือ และงบการตลาด ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนใช้งบเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว มั่นใจว่าจะส่งผลให้ยอดขายในไตรมาสสี่นี้เติบโตขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลักได้ ขณะที่ 9เดือนที่ผ่านมา
พบว่ามียอดขายรวมเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้เล็กน้อย เนื่องจากบริษัทมีการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งเกิดจากการทำวิจัยเป็นหลัก เช่น โปรโมชั่นเฮลท์ แอนด์ บิวตี้ บุฟเฟต์ ซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามได้ 3ชิ้น ในราคา 199 บาท เป็นต้น ส่งผลให้ยอดขายต่อบิลเพิ่มขึ้น 20%
อย่างไรก็ตามในปีหน้าคาดว่าเบื้องต้นจะใช้งบลงทุนอีกไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ขยายสาขาใหม่เพิ่มในอัตราที่ใกล้เคียงกับในปีนี้ พร้อมกับมีการจ้างงานอีกประมาณ 400 คน รวมถึงพนักงานของพาร์ทไทม์ 400 คน จากปัจจุบันมีพนักงานรวมกว่า 2,000 คน กับจำนวนสาขาในเดือนต.ค.ที่ 200 สาขาทั่วประเทศ
ทั้งนี้จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบเพียง 1 สาขาเท่านั้น ที่จังหวัด ลพบุรี ส่วนสาขาอื่นๆกระทบน้อย เนื่องจากส่วนใหญ่อยู่ในตัวเมือง หรือห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก แต่ทางบริษัทก็ได้เตรียมการณ์รองรับไว้เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปี
นายโทบี้ แอนเดอร์สัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นทรัล วัตสัน จำกัด เปิดเผยว่า จากภาพรวมตลาดเฮลท์แอนด์บิวตี้ที่มีโอกาสเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง บวกกับศักยภาพและความพร้อมของทางวัตสัน และการเติบโตที่สูงกว่าตลาด เมื่อเทียบกลุ่มโปรดักส์เดียวกันโตขึ้น 9.3% ส่วนตลาดโต 5.9% นั้น ถือเป็นปัจจัยบวกในการดำเนินธุรกิจ
ส่งผลให้จากเดิมตามแผนที่จะขยายสาขาใหม่ปีนี้ที่ 24 สาขานั้น ได้ขยายเพิ่มเป็น 43 สาขา พร้อมใช้งบรวมเป็น 460 ล้านบาท จากต้นปีที่วางไว้ 210 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นอีก 230 ล้านบาท
“วัตสันมีความพร้อมในการลงทุนขยายธุรกิจอยู่แล้ว แต่เมื่อปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะภาพรวมตลาดเฮลท์แอนด์บิวตี้มีโอกาสเติบโตที่ดี เนื่องจากกลุ่มเอจจิ้งมีเพิ่มขึ้น ราคาโปรดักส์เฉลี่ยลดลง เศรษฐกิจโลกฝั่งยุโรปไม่ดี แต่เอเชียถือว่าดี นักท่องเที่ยวหันมาไทยมากขึ้น และไทยไม่มีผลกระทบมากนัก ทำให้เป็นโอกาสของการขยายการลงทุนในการดำเนินธุรกิจส่งผลให้ปีนี้วัตสันมีการขยายสาขามากสุดตั้งแต่ดำเนินการมา”
โดยเฉพาะในไตรมาสสี่นั้น เนื่องจากมีการเพิ่มขยายสาขาใหม่ ทำให้ต้องใช้งบลงทุนรวมกว่า 250 ล้านบาททั้งในการขยายสาขาอีก 15-20 สาขาที่เหลือ และงบการตลาด ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนใช้งบเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว มั่นใจว่าจะส่งผลให้ยอดขายในไตรมาสสี่นี้เติบโตขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลักได้ ขณะที่ 9เดือนที่ผ่านมา
พบว่ามียอดขายรวมเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้เล็กน้อย เนื่องจากบริษัทมีการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งเกิดจากการทำวิจัยเป็นหลัก เช่น โปรโมชั่นเฮลท์ แอนด์ บิวตี้ บุฟเฟต์ ซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามได้ 3ชิ้น ในราคา 199 บาท เป็นต้น ส่งผลให้ยอดขายต่อบิลเพิ่มขึ้น 20%
อย่างไรก็ตามในปีหน้าคาดว่าเบื้องต้นจะใช้งบลงทุนอีกไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ขยายสาขาใหม่เพิ่มในอัตราที่ใกล้เคียงกับในปีนี้ พร้อมกับมีการจ้างงานอีกประมาณ 400 คน รวมถึงพนักงานของพาร์ทไทม์ 400 คน จากปัจจุบันมีพนักงานรวมกว่า 2,000 คน กับจำนวนสาขาในเดือนต.ค.ที่ 200 สาขาทั่วประเทศ
ทั้งนี้จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบเพียง 1 สาขาเท่านั้น ที่จังหวัด ลพบุรี ส่วนสาขาอื่นๆกระทบน้อย เนื่องจากส่วนใหญ่อยู่ในตัวเมือง หรือห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก แต่ทางบริษัทก็ได้เตรียมการณ์รองรับไว้เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปี
