ASTVผู้จัดการรายวัน - ซีพีเอฟลั่นปีนี้โกยรายได้ 2.1-2.2 แสนล้านบาท โตจากปีก่อน 12% หลังประเมินสถานการณ์พบว่าครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯมีรายได้และกำไรดีกว่าครึ่งปีแรก ยันไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป ระบุการส่งออกกุ้งไปสหรัฐฯปีนี้สดใส เผยไตรมาส 2 บริษัทฯกำไรเฉียด 5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จ่ายปันผลระหว่างกาล 60สต./หุ้น
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เปิดเผยว่า บริษัทฯปรับเป้ารายได้ปีนี้เพิ่ม ขึ้นเป็น 2.1-2.2 แสนล้านบาท หรือเติบโต 12% จากปีก่อน จากเดิมที่ตั้งเป้ารายได้ปีนี้อยู่ที่ 2 แสนล้านบาท หลังจากแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะสูงกว่า 6 เดือนแรกของปีนี้ที่บริษัทฯมีรายได้รวม 9.89 หมื่นล้านบาท และ กำไรสุทธิ 8.34พันล้านบาท เนื่องจากส่งออกและธุรกิจอาหารเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในครึ่งปีหลังเข้าสู่ช่วงเทศกาลทำให้มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามามาก
ด้านผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2554 บริษัทฯมียอดขาย 53,230 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาจากการส่งออกเติบโตและส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมที่ดีกว่าปีก่อน ทำให้ไตรมาส 2 นี้ มีกำไรสุทธิ 4,869 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40%จากไตรมาส1/2554 และเพิ่มขึ้น22%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ มียอดขายรวม 98,974 ล้านบาท โตขึ้น 8% และกำไรสุทธิ 8,348 ล้านบาท เติบโต 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยธุรกิจอาหารเติบโตสูงสุด 16% ธุรกิจผลิตภัณฑ์จากการเลี้ยงสัตว์โต9% และธุรกิจอาหารสัตว์ 4%
หากพิจารณายอดขายตามประเภทกิจการในรอบ 6 เดือนแรกปีนี้พบว่า ยอดขายจากการส่งออกจากกิจการในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตสูง 11% กิจการในประเทศไทยจำหน่ายในประเทศโต 9% กิจการในต่างประเทศโต 6 %
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯได้พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท/หุ้น โดยกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 9 ก.ย.นี้
ขณะเดียวกัน จากวิกฤติเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐและยุโรป เชื่อว่าไม่ได้ส่งผลกระทบบริษัทฯ เนื่องจากมองว่าคนยังต้องบริโภคอาหารและการดำเนินธุรกิจมา 30-40ปีบริษัทฯไม่เคยได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกุ้งที่ซีพีเอฟส่งออกไปตลาดสหรัฐฯนั้นไม่น่าจะได้รับผลกระทบเพราะปริมาณการผลิตกุ้งในตลาดโลกลดลง อีกทั้งการปรับลดภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด(AD)กุ้งไทยจากเดิม4% เหลือ0.4-0.7%นั้นจะทำให้สินค้ากุ้งของไทยในตลาดสหรัฐฯถูกลง โดยตลาดสหรัฐเป็นฐานการส่งออกกุ้งไทย 1.6 แสนตัน คาดว่าปีนี้ส่งออกไปเพิ่มขึ้นเป็น 1.8 แสนตัน
นายพิสิฐ โอมพรนุวัฒน์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ สายธุรกิจการค้าต่างประเทศ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทฯคาดว่ามูลค่าส่งออกกุ้งและไก่จะเพิ่มขึ้นเป็น 3 หมื่นล้านบาท เติบโต 12-15%จากปีก่อน โดยมูลค่าการส่งออกในครึ่งปีหลังจะอยู่ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท ดีกว่าครึ่งปีแรกนี้ที่มีการส่งออกเพียง 1.3 หมื่นล้านบาท โต 10%แบ่งเป็นส่งออกไก่แปรรูป 7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 20% และส่งออกกุ้ง 6 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% ต่ำกว่าที่เคยตั้งเป้าไว้ 35-40%
***หุ้นกู้อายุ30ปีจองเกลี้ยงแล้ว
นายไพศาล จิระกิจเจริญ ประธานผู้บริหารฝ่ายการเงิน ซีพีเอฟ กล่าวถึงการออกหุ้นกู้บริษัทฯวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ว่า ในวันนี้ (11 ส.ค.) จะเปิดจองซื้อหุ้นกู้อายุ 7 ปี ดอกเบี้ย 4.65% วงเงิน 3 พันล้านบาท และหุ้นกู้อายุ 10 ปี ดอกเบี้ย 4.8 % วงเงิน 3 พันล้านบาท โดยหุ้นกู้อายุ 30 ปี ดอกเบี้ย 5.4% วงเงิน 4 พันล้านบาทได้มีการจองซื้อหมดแล้ว ทั้งนี้เงินที่ได้จากการขายหุ้นกู้ดังกล่าวจะนำไปรีไฟแนนซ์จำนวน 7 พันกว่าล้านบาท ส่วนที่เหลือนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียน
จากการออกหุ้นกู้ช่วยคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยของบริษัทไว้ที่ 4.7% ทำให้ต้นทุนธุรกิจในอนาคตดีขึ้น เพราะแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เปิดเผยว่า บริษัทฯปรับเป้ารายได้ปีนี้เพิ่ม ขึ้นเป็น 2.1-2.2 แสนล้านบาท หรือเติบโต 12% จากปีก่อน จากเดิมที่ตั้งเป้ารายได้ปีนี้อยู่ที่ 2 แสนล้านบาท หลังจากแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะสูงกว่า 6 เดือนแรกของปีนี้ที่บริษัทฯมีรายได้รวม 9.89 หมื่นล้านบาท และ กำไรสุทธิ 8.34พันล้านบาท เนื่องจากส่งออกและธุรกิจอาหารเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในครึ่งปีหลังเข้าสู่ช่วงเทศกาลทำให้มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามามาก
ด้านผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2554 บริษัทฯมียอดขาย 53,230 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาจากการส่งออกเติบโตและส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมที่ดีกว่าปีก่อน ทำให้ไตรมาส 2 นี้ มีกำไรสุทธิ 4,869 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40%จากไตรมาส1/2554 และเพิ่มขึ้น22%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ มียอดขายรวม 98,974 ล้านบาท โตขึ้น 8% และกำไรสุทธิ 8,348 ล้านบาท เติบโต 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยธุรกิจอาหารเติบโตสูงสุด 16% ธุรกิจผลิตภัณฑ์จากการเลี้ยงสัตว์โต9% และธุรกิจอาหารสัตว์ 4%
หากพิจารณายอดขายตามประเภทกิจการในรอบ 6 เดือนแรกปีนี้พบว่า ยอดขายจากการส่งออกจากกิจการในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตสูง 11% กิจการในประเทศไทยจำหน่ายในประเทศโต 9% กิจการในต่างประเทศโต 6 %
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯได้พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท/หุ้น โดยกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 9 ก.ย.นี้
ขณะเดียวกัน จากวิกฤติเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐและยุโรป เชื่อว่าไม่ได้ส่งผลกระทบบริษัทฯ เนื่องจากมองว่าคนยังต้องบริโภคอาหารและการดำเนินธุรกิจมา 30-40ปีบริษัทฯไม่เคยได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกุ้งที่ซีพีเอฟส่งออกไปตลาดสหรัฐฯนั้นไม่น่าจะได้รับผลกระทบเพราะปริมาณการผลิตกุ้งในตลาดโลกลดลง อีกทั้งการปรับลดภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด(AD)กุ้งไทยจากเดิม4% เหลือ0.4-0.7%นั้นจะทำให้สินค้ากุ้งของไทยในตลาดสหรัฐฯถูกลง โดยตลาดสหรัฐเป็นฐานการส่งออกกุ้งไทย 1.6 แสนตัน คาดว่าปีนี้ส่งออกไปเพิ่มขึ้นเป็น 1.8 แสนตัน
นายพิสิฐ โอมพรนุวัฒน์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ สายธุรกิจการค้าต่างประเทศ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทฯคาดว่ามูลค่าส่งออกกุ้งและไก่จะเพิ่มขึ้นเป็น 3 หมื่นล้านบาท เติบโต 12-15%จากปีก่อน โดยมูลค่าการส่งออกในครึ่งปีหลังจะอยู่ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท ดีกว่าครึ่งปีแรกนี้ที่มีการส่งออกเพียง 1.3 หมื่นล้านบาท โต 10%แบ่งเป็นส่งออกไก่แปรรูป 7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 20% และส่งออกกุ้ง 6 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% ต่ำกว่าที่เคยตั้งเป้าไว้ 35-40%
***หุ้นกู้อายุ30ปีจองเกลี้ยงแล้ว
นายไพศาล จิระกิจเจริญ ประธานผู้บริหารฝ่ายการเงิน ซีพีเอฟ กล่าวถึงการออกหุ้นกู้บริษัทฯวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ว่า ในวันนี้ (11 ส.ค.) จะเปิดจองซื้อหุ้นกู้อายุ 7 ปี ดอกเบี้ย 4.65% วงเงิน 3 พันล้านบาท และหุ้นกู้อายุ 10 ปี ดอกเบี้ย 4.8 % วงเงิน 3 พันล้านบาท โดยหุ้นกู้อายุ 30 ปี ดอกเบี้ย 5.4% วงเงิน 4 พันล้านบาทได้มีการจองซื้อหมดแล้ว ทั้งนี้เงินที่ได้จากการขายหุ้นกู้ดังกล่าวจะนำไปรีไฟแนนซ์จำนวน 7 พันกว่าล้านบาท ส่วนที่เหลือนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียน
จากการออกหุ้นกู้ช่วยคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยของบริษัทไว้ที่ 4.7% ทำให้ต้นทุนธุรกิจในอนาคตดีขึ้น เพราะแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น