บริษัท เซ็นทรัล วัตสัน จำกัด ผู้บริหารวัตสัน ร้านเพื่อสุขภาพและความงาม ที่มียอดขายอันดับหนึ่งในประเทศไทย 7 ปีซ้อนและมีสาขาในประเทศไทยมากกว่า 200 สาขาทั่วประเทศ ประกาศแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ นายคริช ไอเออร์ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 โดยนายคริช จะรับผิดชอบดูแลบริหารงานทั่วไปของบริษัทฯ ควบคู่กับการวางกลยุทธ์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับวัตสันในประเทศไทย
นอกจากดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของบริษัท เซ็นทรัล วัตสัน จำกัดแล้ว นายคริช ยังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ สำหรับธุรกิจสุขภาพ และ ความงามระดับภูมิภาค (Regional Business Development Director for Health & Beauty Business) ของบริษัท เอ เอส วัตสัน กรุ๊ป รับผิดชอบงานด้านการขยายธุรกิจในตลาดเกิดใหม่ในเอเชียและยุโรปตะวันออก การออกแบบร้าน และการพัฒนาธุรกิจของวัตสันในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย
นายคริช ไอเออร์ เริ่มงานกับบริษัท เอ เอส วัตสัน กรุ๊ปครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2549 โดยรับหน้าที่ดูแลธุรกิจของบริษัทในประเทศฟิลิปปินส์และไต้หวันมาเป็นระยะเวลากว่า 6 ปี นอกจากนี้ นายคริช ยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของคณะกรรมการบริหารระดับสากลของกรุ๊ปด้วยเช่นกัน
คริช มีประสบการณ์การทำงานกว่า 30 ปีในหลากหลายธุรกิจด้วยกันรวมถึงการเงิน และธุรกิจค้าปลีก ทั้งในสายงานการตลาดและการบริหารจัดการทั่วไป ก่อนหน้าที่จะร่วมงานกับเอ เอส วัตสัน กรุ๊ป คริช เคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และประธานกรรมการบริหารกลุ่มธุรกิจค้าปลีกในประเทศอินเดีย
คริช จบการศึกษาระดีบปริญญาตรีด้านพาณิชยศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ และได้รับการรองรับให้เป็นนักบัญชีที่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ มร.คริช ยังเป็นสมาชิกและวิทยากรให้กับสมาคมและการประชุมต่างๆในประเทศอินเดีย
คริช ไอเออร์กล่าวถึงการเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท เซ็นทรัล วัตสัน จำกัดว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวัตสันในประเทศไทย หนึ่งในตลาดเอเชียที่ประสบความสำเร็จมากของวัตสัน ทีมวัตสันในประเทศในเป็นทีมที่มีปะสิทธิภาพ และประเทศไทยก็เป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตมากเช่นเดียวกัน ผมเชื่อมั่นว่า ผมและทีมวัตสันประเทศไทยจะร่วมมือกันทำให้วัตสัตสามารถครองตำแหน่งผู้นำร้านค้าด้านสุขภาพและความงามได้ตลอดไป”
วัตสัน ร้านเพื่อสุขภาพและความงามสำหรับคุณ เป็นเครือข่ายร้านค้าปลีกชั้นนำด้านสุขภาพความงามที่ดำเนินการในทวีปยุโรปและเอเชีย โดยมีจำนวนสาขากว่า 2,900 สาขา และเภสัชกรจำนวน 900 คนใน 12 ประเทศ ซึ่งรวมถึง ประเทศจีน ฮ่องกง ไต้หวัน มาเก๊า สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลี อินโดนีเซีย ตุรกี และยูเครน