กรมเจ้าท่าเร่งเติมทรายชายฝั่งหาดชลาทัศน์ แหลมสมิหลา เหตุถูกคลื่นกัดเซาะ

กรมเจ้าท่าทุ่ม 5 ล้านบาทออกหน่วยปฏิบัติงานเติมทรายชายหาดชลาทัศน์ แหลมสมิหลา จ.สงขลา หลังถูกคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง โดยการดูดทรายถมปรับพื้นที่บริเวณนอกฝั่งและปรับภูมิทัศน์ชายหาดให้กลับมาสวยงามดึงนักท่องเที่ยวกลับมาเยือนอีกครั้ง คาดเสร็จต้น ก.ย.นี้

นายณัฐชัย พลกล้า ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 4 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่า โดยศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 4 จังหวัดสงขลา ได้เปิดหน่วยปฏิบัติการเร่งปรับปรุงหาดชลาทัศน์เพื่อฟื้นฟูชายหาดด้วยการนำทรายมาทำเป็นคันกั้นแนวคลื่นในพื้นที่ที่ประสบปัญหา ตั้งแต่บริเวณบ้านเก้าเส้งไปจนถึงบริเวณชายหาดหน้าทัพเรือภาคที่ 2 โดยมีการขยายหน้าหาดให้กว้างขึ้น 30 เมตร จากเดิมมีการนำกระสอบทรายและหินมาวางกันคลื่นทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เห็นว่าทัศนียภาพชายหาดที่สวยงามลดลง จึงมีความเห็นตรงกันที่จะปรับปรุงด้วยการนำทรายมาเติม ซึ่งเชื่อว่าการเติมทรายให้ชายหาดจะสามารถป้องกันปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งได้ดีกว่าการใช้แนวกันคลื่นชั่วคราวที่มีโครงสร้างแข็ง และป้องกันการกัดเซาะได้ไม่น้อยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ และให้ความเห็นว่าการปรับภูมิทัศน์ของชายหาดในครั้งนี้จะมีแต่ผลดี

สำหรับลักษณะการปฏิบัติงานปรับถมทรายบริเวณหาดชลาทัศน์ เป็นการขุดลอกทรายจากทะเลนอกชายฝั่งเริ่มต้นที่ระยะห่างฝั่ง 200 เมตร โดยเรือดูดทรายเจ้าท่า ข.37 และ ข.25 ดูดทรายขึ้นมาแล้วส่งทรายทางท่อเหล็กเส้นผ่าศูนย์กลาง 20 นิ้วลงบริเวณหน้าหาด หลังจากนั้นก็จะใช้รถแบ็กโฮปรับพื้นที่ด้วยการตักและเกลี่ยทรายเพื่อมาเติมเต็มทรายที่หายไปเป็นระยะทางยาว 450 เมตร มีลักษณะเรียงขนานไปกับถนน สำหรับทรายที่ใช้ดำเนินการคาดว่าจะต้องใช้ทรายไม่ต่ำกว่า 300,000 คิวบิกเมตร

“ขณะนี้การดูดทรายได้ระยะทางกว่า 250 เมตร ได้ปริมาณทรายไปแล้ว 60,000-70,000 คิวบิกเมตร ทรายที่ดูดขึ้นมาเราใช้รถแบ็กโฮขนาดใหญ่ช่วยโกยทรายที่เรือดูดทรายได้ดูดมากองไว้บริเวณชายฝั่ง ตักขึ้นมาไว้บนฝั่ง และทำการฝังกลบเขื่อนหินกันคลื่นของเทศบาลนครสงขลา ซึ่งคืบหน้าไปกว่า 60-70 เปอร์เซ็นต์แล้ว การปรับปรุงภูมิทัศน์ชายหาดชลาทัศน์ขณะนี้จะเห็นเป็นแนวชายหาดชัดเจน ทั้งหมดนี้ใช้งบประมาณเกือบ 5,000,000 บาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้” นายณัฐชัยกล่าว

โครงการขุดลอกเพื่อนำทรายถมปรับทำให้ชายหาดชลาทัศน์เริ่มกลับมาให้เห็นอีกครั้งหนึ่ง โดยทำการดูดทรายขึ้นมาเติมชายหาดอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่บริเวณชายหาดชลาทัศน์แห่งนี้ต้องประสบปัญหาการกัดเซาะอย่างหนัก ซึ่งในอดีตเป็นที่นิยมและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม แต่ละปีก็จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาที่หาดแห่งนี้เป็นจำนวนมาก แต่ปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งทำให้พื้นที่ชายหาดเริ่มหดหายไปจนเหลือชายหาดอยู่เพียงไม่กี่เมตร และเริ่มชิดกับถนนเลียบหาดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีการนำทรายกลับคืนสู่ธรรมชาติ ปรับภูมิทัศน์ชายหาดให้กลับมาสวยงามอีกครั้ง และสามารถป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งได้อย่างยั่งยืน