xs
xsm
sm
md
lg

บุรีรัมย์ฝนตกน้อย “น้ำมูล” ตื้นเขิน เกษตรกรเดือดร้อน กรมเจ้าท่าเร่งขุดลอกช่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จ.บุรีรัมย์ ฝนตกน้อย น้ำในลำน้ำมูลไหลผ่าน อ.สตึก ยังตื้นเขิน เกษตรกรเลี้ยงปลาในกระชังเดือดร้อนไม่สามารถเลี้ยงได้ ส่วนนาข้าวแห้งตายนับแสนไร่ วันนี้ ( 31 ก.ค.)
บุรีรัมย์ - พายุ “วีเซนเต” ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือและอีสาน แต่บุรีรัมย์ฝนตกน้อย ส่งผลให้น้ำในลำน้ำมูลยังตื้นเขิน เกษตรกรเลี้ยงปลาในกระชังเดือดร้อนไม่สามารถเลี้ยงได้ ส่วนนาข้าวแห้งตายนับแสนไร่ ขณะกรมเจ้าท่าเร่งดูดทรายขุดลอกลำน้ำมูลช่วยเหลือเกษตรกร

วันนี้ (31 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อิทธิพลพายุ “วีเซนเต” ทำให้มีฝนตกหนักและน้ำท่วมในหลายพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือและภาคอีสาน แต่จังหวัดบุรีรัมย์กลับประสบปัญหาภัยแล้งฝนตกน้อย ทำให้น้ำในลำน้ำมูลบริเวณ อ.สตึกยังมีสภาพตื้นเขินและแห้งขอด ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่มีอาชีพเลี้ยงปลาในกระชัง บ้านท่าเรือ ต.ท่าม่วง อ.สตึก กว่า 40 ราย ยังไม่สามารถเลี้ยงปลาในกระชังได้ เนื่องจากปริมาณน้ำในลำน้ำมูลที่ตื้นเขินทำให้น้ำไม่ไหลเวียน เป็นกรดก๊าซ ซึ่งจะทำให้ปลาที่เลี้ยงไว้ช็อกตายได้ เสี่ยงต่อการประสบปัญหาขาดทุน เพิ่มภาระหนี้สินแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง

เกษตรกรบอกว่าปีนี้ฝนทิ้งช่วงมานานกว่า 3 เดือน ทำให้น้ำในลำน้ำมูลมีสภาพตื้นเขินและแห้งขอดมากสุดในรอบ 10 ปีหากเปรียบเทียบในช่วงเดียวกัน ประกอบกับขณะนี้นาข้าวของเกษตรกรนับแสนไร่ยังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำใกล้แห้งตายอีกด้วย

ด้านนายณรงค์ วงค์แสงรัตน์ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง บ้านท่าเรือ ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า จากผลกระทบดังกล่าวจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาสำรวจ ก่อสร้างฝาย หรือเขื่อนยางโดยเร่งด่วนด้วย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถเลี้ยงปลาในกระชังได้ตลอดทั้งปี ก่อนที่อาชีพดังกล่าวจะสูญหายไปจากหมู่บ้าน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางกรมเจ้าท่าได้นำเรือดูดทรายมาทำการขุดลอกดูดทรายในลำน้ำมูล บริเวณจุดที่ตื้นเขินให้มีความลึกมากขึ้น ทำให้น้ำไหล และกักเก็บน้ำให้เกษตรกร และประชาชนในเขตพื้นที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ สามารถนำน้ำมูลไปใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรได้ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเบื้องต้น


เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เดือดร้อน
กำลังโหลดความคิดเห็น