พังงา - ดีเอสไอบุกบ่อดูดทรายในเขตป่าสงวนฯและเขตป่าไม้ ที่จังหวัดพังงา จับผู้ต้องหาจำนวน 14 คน เครื่องดูดทราย 7 เครื่องรถแบ๊คโฮร่วม 10 คัน และรถบรรทุกทรายจำนวนมาก
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (30 ก.ค.) พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ สนธิกำลัง กับ พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.พังงา พร้อมด้วย นายภพพล ศิริลักษณะนุพงษ์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพังงา พ.ต.อ.กุลฑล ฉลาดแพทย์ ผกก.สภ.ท้ายเหมือง พ.จ.อ.เผด็จ รักษ์ทอง กองร้อยสารวัตรทหารเรือที่ 3ฐานทัพเรือพังงา หน่วยทำลายใต้น้ำจู่โจมชุดปฏิบัติการพิเศษทัพเรือภาค 3 และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า100 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ลงพื้นที่บ้านท่าดินแดง และบ้านหินลาดหมู่ที่ 6 ต.ท้ายเหมือง หมู่ที่ 4 ต.ลำแก่นอ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เพื่อตรวจสอบท่าดูดทรายจำนวน 5 บ่อ
พร้อมควบคุมเครื่องจักรกลและผู้ต้องสงสัยจำนวน14 คน พร้อมเครื่องดูดทรายอีกจำนวน 7 เครื่องรถแบ็คโฮ จำนวนประมาณ 10 คัน พร้อมรถบรรทุกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีอาวุธปืนจำนวน 2 กระบอกสมุดบันทึกการรับส่งทรายอีกจำนวนหลายเล่ม และใบเสร็จบรรทุกทรายตั้งแต่ช่วงปี 2553– 2554
ซึ่งการบุกเข้าจับกุมและตรวจค้นครั้งนี้เกิดจากทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีการลักลอบดูดทรายในพื้นที่ป่าสงวนฯกันมาเป็นเวลานานและมีผู้เข้าทำการลักลอบดูดทรายเป็นจำนวนมากกว่า 10-20ท่าทราย โดยบางรายมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังและมีกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นระดับจังหวัดเป็นเจ้าของท่าทรายดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังทางกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อเข้าตรวจสอบ พบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนฯและป่าไม้จำนวนกว่า 100 ไร่ ซึ่งชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากฝุ่นละอองและถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อจนทนการกระทำของกลุ่มนายทุนไม่ไหวจึงได้แจ้งผ่านไปทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนฯ บุกรุกป่าไม้ลักทรัพย์สินสาธารณะ และบางรายพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต ทางด้านผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
โดย พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวว่ากรณีท่าดูดทรายในเขตป่าสงวนฯและป่าไม้ นี้มีการทำมานานแล้วแต่ไม่มีใครสามารถดำเนินการจับกุมได้โดยเบื้องต้นทาง ดีเอสไอ จะส่งผู้ต้องหา พยาน หลักฐานให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดำเนินคดี หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่จะส่งให้ทางกรรมการของกระทรวงยุติธรรมว่าจะมอบหมายให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าดำเนินการ ซึ่งคาดว่าหรือไม่ คาดว่าไม่เกิน 1-2 อาทิตย์ ทางดีเอสไอ ก็สามารถดำเนินการสอบสวนได้ จากนั้นทาง ดีเอสไอจะสอบสวนให้ละเอียดและสาวโยงถึงกลุ่มนายทุน ผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด เบื้องต้นพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาเกี่ยวพันในเรื่องนี้ด้วย
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (30 ก.ค.) พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ สนธิกำลัง กับ พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.พังงา พร้อมด้วย นายภพพล ศิริลักษณะนุพงษ์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพังงา พ.ต.อ.กุลฑล ฉลาดแพทย์ ผกก.สภ.ท้ายเหมือง พ.จ.อ.เผด็จ รักษ์ทอง กองร้อยสารวัตรทหารเรือที่ 3ฐานทัพเรือพังงา หน่วยทำลายใต้น้ำจู่โจมชุดปฏิบัติการพิเศษทัพเรือภาค 3 และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า100 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ลงพื้นที่บ้านท่าดินแดง และบ้านหินลาดหมู่ที่ 6 ต.ท้ายเหมือง หมู่ที่ 4 ต.ลำแก่นอ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เพื่อตรวจสอบท่าดูดทรายจำนวน 5 บ่อ
พร้อมควบคุมเครื่องจักรกลและผู้ต้องสงสัยจำนวน14 คน พร้อมเครื่องดูดทรายอีกจำนวน 7 เครื่องรถแบ็คโฮ จำนวนประมาณ 10 คัน พร้อมรถบรรทุกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีอาวุธปืนจำนวน 2 กระบอกสมุดบันทึกการรับส่งทรายอีกจำนวนหลายเล่ม และใบเสร็จบรรทุกทรายตั้งแต่ช่วงปี 2553– 2554
ซึ่งการบุกเข้าจับกุมและตรวจค้นครั้งนี้เกิดจากทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีการลักลอบดูดทรายในพื้นที่ป่าสงวนฯกันมาเป็นเวลานานและมีผู้เข้าทำการลักลอบดูดทรายเป็นจำนวนมากกว่า 10-20ท่าทราย โดยบางรายมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังและมีกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นระดับจังหวัดเป็นเจ้าของท่าทรายดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังทางกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อเข้าตรวจสอบ พบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนฯและป่าไม้จำนวนกว่า 100 ไร่ ซึ่งชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากฝุ่นละอองและถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อจนทนการกระทำของกลุ่มนายทุนไม่ไหวจึงได้แจ้งผ่านไปทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนฯ บุกรุกป่าไม้ลักทรัพย์สินสาธารณะ และบางรายพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต ทางด้านผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
โดย พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวว่ากรณีท่าดูดทรายในเขตป่าสงวนฯและป่าไม้ นี้มีการทำมานานแล้วแต่ไม่มีใครสามารถดำเนินการจับกุมได้โดยเบื้องต้นทาง ดีเอสไอ จะส่งผู้ต้องหา พยาน หลักฐานให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดำเนินคดี หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่จะส่งให้ทางกรรมการของกระทรวงยุติธรรมว่าจะมอบหมายให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าดำเนินการ ซึ่งคาดว่าหรือไม่ คาดว่าไม่เกิน 1-2 อาทิตย์ ทางดีเอสไอ ก็สามารถดำเนินการสอบสวนได้ จากนั้นทาง ดีเอสไอจะสอบสวนให้ละเอียดและสาวโยงถึงกลุ่มนายทุน ผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด เบื้องต้นพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาเกี่ยวพันในเรื่องนี้ด้วย