ตรัง - อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง หาทางแก้ปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งบริเวณชายหาดปากเมง ที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี
นายณรงค์ คงเอียด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง กล่าวว่า ปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งบริเวณชายหาดปากเมง มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี ซึ่งที่ผ่านมา ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามหามาตรการป้องกัน โดยการสร้างเขื่อนป้องกันตั้งแต่หน้าโรงแรมอนันตรา รีสอร์ท จนมาถึงชายหาดปากเมงบางส่วน ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งก็สามารถป้องกันการกัดเซาะของน้ำทะเลได้ในระดับหนึ่ง
สำหรับต้นสนที่เสื่อมสภาพ และเสี่ยงต่อการหักโค่นล้มนั้น ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบอยู่แล้ว แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่คิดว่าจะรุนแรงเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม หากชาวบ้านแจ้งมา ทางอุทยานฯ ก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตัดทำลายทิ้ง เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยว และทรัพย์สิน ส่วนการที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดตรังเรียกร้องให้สร้างเขื่อนบริเวณชายหาดนั้น โดยส่วนตัวเห็นว่า หากสามารถทำได้จะช่วยป้องกันคลื่นลมมรสุมได้เป็นอย่างดี แต่ก็อาจทำให้เสียทัศนียภาพในการท่องเที่ยวไป
นายประทีป โจ้งทอง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง กล่าวว่า กรณีที่บริเวณชายหาดปากเมง เกิดคลื่นลมมรสุมกัดเซาะชายฝั่งบ่อยครั้ง จนส่งผลให้ต้นสนที่หักโค่นล้มทับทรัพย์สินได้รับความเสียหายนั้น เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาเป็นประจำในทุกปี และยิ่งรุนแรงมากขึ้น จึงเรียกร้องให้เร่งสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะของน้ำทะเลโดยเร่งด่วน แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะอยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม แต่ทุกฝ่ายควรรีบเร่งมาหารือ และหามาตรการป้องกัน
อย่างไรก็ตาม แม้การสร้างเขื่อนตามแนวชายหาดปากเมงทั้งหมด จะส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถลงไปเล่นน้ำในทะเลได้อย่างสะดวกก็ตาม แต่หากไม่เร่งสร้างโดยด่วน เชื่อว่าในอนาคตอีก 3 ปีข้างหน้า ก็จะไม่มีต้นสนหลงเหลืออยู่คู่กับชายหาดปากเมง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัดตรัง รวมไปถึงพื้นที่ชายฝั่งอื่นๆ ที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะเข้ามาแล้วถึง 50 เมตร โดยทุกๆ ปีเมื่อเกิดคลื่นลมมรสุมขึ้นในทะเลตรัง ก็จะทำให้ต้องสูญเสียพื้นที่ชายหาดไปเป็นจำนวนมาก
นายกสมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ไม้ฝาด ไม่สามารถเข้าไปตัดแต่งกิ่งต้นสนบริเวณชายหาดปากเมง เพื่อไม่ให้โค่นล้มลงมาได้ ทั้งที่ทราบดีว่า เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยว และทรัพย์สิน แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ของอุทยานฯ ถ้าหากเข้าไปดำเนินการใดๆ ก็อาจถูกดำเนินคดีได้ ต้องรอทำเรื่องขออนุญาตไปยังอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งกว่าจะดำเนินการได้ ต้นสนก็ล้มทับบ้านเรือน และทรัพย์สินเสียหายแล้ว
