ตรัง - พิษพายุถล่มชายหาดปากเมง จังหวัดตรัง ทำคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง และต้นสนขนาดใหญ่โค่นล้มระเนระนาด ด้านผู้ประกอบการจี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตัดโค่นต้นไม้ที่เสื่อมสภาพโดยเร่งด่วน
จากการที่ได้เกิดพายุฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ตรัง ติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้หลายพื้นที่มีบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบจากการถูกน้ำท่วมเสียหายจำนวนมาก ในส่วนของ อ.สิเกา โดยเฉพาะที่ชายหาดปากเมง หมู่ที่ 4 ต.ไม้ฝาด ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ได้เกิดพายุคลื่นลมแรงในทะเลกัดเซาะชายฝั่งลึกประมาณ 50 ซม. ส่งผลให้ต้นสนอายุกว่า 50 ปี ที่ขึ้นอยู่ตามแนวชายหาด โค่นล้มระเนระนาดตลอดแนว และยังทำให้โต๊ะม้านั่งพังได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ยังได้พัดพาเศษขยะ กิ่งไม้ ขวดพลาสติก ขวดแก้ว และทรายขึ้นมากองอยู่บนริมถนน ทำให้เกิดความสกปรกดูไม่สะอาดตา ทางผู้ประกอบการต้องเร่งเก็บกวาดทำความสะอาดเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวชายหาดปากเมง
นางวันเพ็ญ รัตนสำลี อายุ 50 ปี เจ้าของร้านครัวลดาวัลย์ กล่าวว่า พายุคลื่นลมแรงในทะเลปีนี้ ยอมรับว่ารุนแรง และน่ากลัวกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แม้ว่าก่อนหน้านี้ ทางผู้ประกอบการร้านอาหารจะนำกระสอบทราย และแท่งปูนมาวางเรียงตามแนวชายฝั่ง เพื่อลดความแรงของคลื่นไม่ให้กัดเซาะชายฝั่งพัง ซึ่งก็ป้องกันได้ระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถกันคลื่นลมได้
ส่งผลให้แนวชายฝั่งถูกกัดเซาะ และต้นสนโค่นล้ม เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าพาครอบครัวเข้ามานั่งรับประทานอาหาร ที่ทางร้านจัดเตรียมโต๊ะเก้าอี้ไว้ที่หน้าชายหาดใต้ต้นสน เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัยทั้งในชีวิต และทรัพย์สิน จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้ามาสำรวจต้นสนที่มีความเสื่อมสภาพแล้ว ให้ทำการตัดโค่นทิ้ง ก่อนที่จะเกิดเหตุเศร้าสลดขึ้น
ขณะที่ นางดวงกมล แสงศรีจันทร์ อายุ 52 ปี เจ้าของร้านจิตติมา กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น ขณะนี้ ได้ส่งผลกระทบทำให้นักท่องเที่ยวลดน้อยลง เนื่องจากไม่กล้าพาครอบครัวมานั่งพักผ่อนริมชายหาด เพราะกลัวจะถูกต้นสนล้มทับ ซึ่งทางตน และผู้ประกอบการรายอื่นจึงต้องหาทางช่วยเหลือกันเอง โดยเบื้องต้น ได้ร่วมกันสำรวจต้นสนที่อยู่หน้าร้านของแต่ละคน หากพบต้นใดที่อายุมาก และเสี่ยงต่อการโค่นล้มจากลมพายุ ก็จะแจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการนั่ง หรือจอดรถยนต์บริเวณดังกล่าว
และหากน้ำในทะเลเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม หรือคล้ำซึ่งเป็นสัญญาณแจ้งเตือนว่า พายุกำลังมา ก็จะให้นักท่องเที่ยวย้ายเข้าไปนั่งในร้านแทน เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้ามาสำรวจต้นสนที่เสื่อมสภาพ และโค่นทิ้งโดยเร่งด่วน ก่อนที่จะกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของ อ.สิเกา