ครม.ไฟเขียว กองทุน 3.5 แสนล้านแก้ปัญหาน้ำ-ร.ฟ.ท.บริหารตลาดนัดจตุจักร

ครม.ไฟเขียวตั้งกองทุน 3.5 แสนล้านแก้ปัญหาน้ำ กองทุนประกันภัยเคาะอนุมัติหลักการให้ ธปท.รับโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ และศึกษาแก้ กม.ปล่อยกู้ซอฟท์โลน พร้อมเห็นชอบ “ร.ฟ.ท.” บริหารตลาดนัด “จตุจักร” เปิดให้ผู้ค้าขายฟรี 2 เดือน

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ มีมติให้ตั้งกองทุนวงเงินกว่า 3.5 แสนล้านบาท เพื่อนำมาใช้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการในระยะยาว วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท โดยมีบางโครงการที่สามารถดำเนินการได้ทันที

นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบในหลักการในการจัดตั้งกองทุนเพื่อการประกันภัยในวงเงิน 50,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลเห็นว่าควรมีการจัดตั้งกองทุนนี้ขึ้น เพื่อจัดระบบประกันภัยให้สามารถดูแลตัวเองได้ โดยเฉพาะช่วงเกิดเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ เนื่องจากยังมีความกังวลของบางบริษัทที่ไม่ได้ทำประกันภัยต่อในต่างประเทศไว้

นายกิตติรัตน์กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ครม.ยังอนุมัติแผนแม่บทในการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ ครอบคลุมใน 8 ด้าน เช่น ด้านการขยายพื้นที่ปลูกป่าเพื่อสร้างสมดุลเชิงนิเวศ, การสร้างระบบการจัดเก็บน้ำ เช่น การสร้างเขื่อน หรือแก้มลิง, การจัดการด้านผังเมือง และการเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุภัยพิบัติที่อาจจะรุนแรงมากขึ้นในอนาคต

อย่างไรก็ดี คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ(กยอ.) ได้มอบหมายให้นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโลโลยี ไปประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญในเรื่องข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศที่จะทำให้รับทราบถึงข้อมูลในแต่พื้นที่ได้อย่างละเอียด ซึ่งในจุดนี้จะมีการประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ เช่น องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจกา)

ขณะเดียวกัน ครม.ยังได้มอบหมายให้นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ ไปสำรวจโครงการด้านการเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยว่าจำเป็นต้องมีการซ่อมและสร้างให้กลับมาเหมือนเดิมในพื้นที่ใดบ้าง รวมถึงให้หลักการในการจัดตั้งหน่วยงานที่จะบริหารจัดการน้ำแบบรวมศูนย์กลางเข้าไว้ด้วยกัน

นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติเห็นชอบในหลักการโอนภาระหนี้สินกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำนวน 1.1 ล้านล้านบาท ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแล และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึง ธปท.ได้มีการรวบรวมความเห็นเสนอและข้อสังเกตกลับมาที่ ครม.อีกครั้งในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ เมื่อโอนภาระหนี้ดังกล่าวกลับให้ ธปท.แล้ว คาดว่าสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี จะลดลง 10% หรือทำให้ภาระหนี้สาธารณะที่ปัจจุบันอยู่ระดับ 41% จะเหลือประมาณ 30% ของจีดีพี

อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าว ธปท.อาจไม่ต้องการรับภาระหนี้คืน แต่รัฐบาลมองว่าเป็นภาระของประเทศ ซึ่งในยามที่ประเทศเป็นหนี้ ก็ควรมีหน่วยงานอื่นมารับภาระแทน และเชื่อว่า ธปท.จะมีความพร้อมและสามารถหาวิธีบริหารจัดการได้ เพราะยังมีเวลาเตรียมการอีก 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติหลักการให้ ธปท.ไปศึกษาแนวทางแก้กฎหมายเพื่อสามารถปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) วงเงิน 3 แสนล้านบาท

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ครม.ยังรับทราบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) บริหารตลาดนัดจตุจักร โดยตั้งบริษัทลูกเข้ามาบริหาร โดยมอบให้กระทรวงคมนาคมไปหารือกับกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เพื่อสรุปว่า ควรจะต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนเท่าไหร่ ก่อนที่จะนำกลับเข้าสู่ที่ประชุม ครม.อีกครั้ง

พร้อมกันนี้ ผู้บริหารการรถไฟเตรียมหารือกับผู้บริหารกรุงเทพมหานคร วันที่ 2 มกราคม 2555 เพื่อเตรียมความพร้อมในการส่งมอบพื้นที่ให้กับการรถไฟ ทางด้านการปรับค่าเช่าแผงในตลาดนัดจตุจักร พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ความเห็นว่า การรถไฟเตรียมหารือกับผู้ค้าในเร็วๆ นี้ โดยการขึ้นค่าเช่าต้องมีความสมเหตุสมผล ทั้งในส่วนของผู้ค้า และการรถไฟ

ต้องยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมา การรถไฟก็มีปัญหาภาระหนี้สินมากพอสมควร จำเป็นต้องบริหารการใช้พื้นที่ตลาดนัดจตุจักรที่มีกว่า 68 ไร่ให้มีประสิทธิภาพ สำหรับช่วงสุญญากาศการรถไฟจะให้ผู้เช่าแผงในตลาดนัดจตุจักรขายฟรีเป็นเวลา 1-2 เดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ 2555