xs
xsm
sm
md
lg

“พลังงาน” นัดถกท่อก๊าซ ปตท.รั่วในอ่าวไทย ยัน “เอ็นจีวี-ไฟฟ้า” ไม่ขาดแคลน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พลังงาน” นัดถกด่วน! ท่อก๊าซ ปตท.รั่วในอ่าวไทย พร้อมตั้งวอร์รูมเกาะติดสถานการณ์ ผลสอบเบื้องต้น พบว่า เกิดจาก บ.เอกชน วางสมอเรือพลาด ทำก๊าซหายไปจากระบบ วันละ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุต ยันเชื้อเพลิง “เอ็นจีวี” ไม่ขาดแคลน ขณะที่ กฟผ.ปรับใช้น้ำมันเตาแทนก๊าซ มั่นใจไม่กระทบต่อการผลิตไฟฟ้า

นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาท่อก๊าซรั่วในอ่าวไทย โดยระบุว่า ตนเองได้นัดประชุมคณะกรรมการบริหารเชื้อเพลิงเป็นการด่วน ในวันที่ 27 มิถุนายน 2554 (พรุ่งนี้) เพื่อติดตามและบริหารเชื้อเพลิงหลังจากเกิดปัญหาท่อก๊าซธรรมชาติของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) รั่วตั้งแต่เย็นวานนี้ (25 มิ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.

นายณอคุณ กล่าวว่า ทาง ปตท.ได้แจ้งเหตุการณ์ดังกล่าวให้ทราบ และตนได้สั่งการให้เร่งแก้ปัญหา ซึ่งทาง ปตท.ได้ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์และแก้ไขโดยทันที มีการประสานงานกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการจัดส่งเชื้อเพลิงเพื่อผลิตไฟฟ้า ทดแทนก๊าซที่หายไปจากระบบ

“เรื่องนี้อยู่ในแผนภาวะฉุกเฉินที่กระทรวงพลังงานดำเนินการอยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นมา จึงไม่มีผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้า ไฟฟ้าไม่ขาดแคลน”

ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวเสริมว่า ตนเองได้รับรายงานเบื้องต้น ยืนยันว่า ปริมาณก๊าซที่หายไปจากระบบ ไม่ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ขาดแคลน และมีการจำหน่ายตามปรกติได้แน่นอน ต่างจากกรณีเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีการหยุดส่งแหล่งก๊าซจากพม่า เพราะปัญหามรสุมในทะเล ส่วนต้นทุนค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้น ในเรื่องนี้ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกกูเลเตอร์) จะพิจารณา

ทั้งนี้ ปตท.ได้ออกแถลงการณ์ว่า ก๊าซจะหายจากเหตุการณ์ ท่อในอ่าวไทยรั่ว ประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน อย่างไรก็ตาม นายพิบูลย์ บัวแช่ม ผู้ช่วยผู้ว่าการควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) กล่าวว่า ปตท.ได้แจ้งปริมาณก๊าซที่ส่งให้จะมีปริมาณลดลง 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งทาง กฟผ.ได้เปลี่ยนเชื้อเพลิง ในโรงไฟฟ้าบางปะกง 3 โรง เรียบร้อยแล้ว โดยใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิงทดแทน พร้อมยืนยันว่า ปัญหาดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้า

นายวิชัย พรกีรติวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ปตท. กล่าวว่า เหตุการณ์ท่อส่งก๊าซธรรมชาติรั่ว กิโลเมตรที่ 81 จากแท่นขุดเจาะ (ห่างจากจุดท่อก๊าซขึ้นที่ชายฝั่งทะเลระยอง ประมาณ 325 กิโลเมตร) เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมานั้น ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า จุดที่ก๊าซ รั่ว คือ บริเวณท่อก๊าซที่ต่อเชื่อมระหว่างท่อประธานในทะเลขนาด 34 นิ้ว (ท่อเส้นที่ 1) กับท่อย่อย (24 นิ้ว) ที่ส่งก๊าซมาจากแหล่งปลาทอง

โดยเช้าวันนี้ (26 มิ.ย.) ปตท.ได้ส่งอุปกรณ์สำรวจใต้น้ำ ROV (Remotely Operated Vehicle) ลงไปตรวจสอบ เพื่อจะนำข้อมูลมาประเมินและเร่งดำเนินการแก้ไขซ่อมแซม เบื้องต้น ปตท. จึงมีความจำเป็นต้องหยุดส่งก๊าซธรรมชาติ ผ่านท่อประธานเส้นดังกล่าวเป็นการชั่วคราว และอยู่ระหว่างการประเมินระยะเวลาในการดำเนินการแก้ไขซ่อมแซม

ทั้งนี้ ผลกระทบจากเหตุดังกล่าว ทำให้ความสามารถในการส่งก๊าซธรรมชาติมีปริมาณลดลงประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งกระทบต่อการส่งก๊าซธรรมชาติให้แก่ กฟผ.และโรงแยกก๊าซธรรมชาติ โดยทาง ปตท.อยู่ระหว่างการจัดหาน้ำมันเตาปริมาณ 30 ล้านลิตร ให้กับโรงไฟฟ้าพร้อมทั้งมีแผนจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) รวมทั้งจัดหาก๊าซจากแหล่งอื่นๆ เข้ามาเสริม ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการ

รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ปตท.ยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในทะเล ทั้งสิ่งมีชีวิต คุณภาพน้ำทะเล และสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เนื่องจากก๊าซธรรมชาติมีคุณสมบัติเบากว่าอากาศ ไม่ละลายน้ำ และไม่มีสิ่งเจือปนอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ปตท.จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเร่งดำเนินการแก้ไขโดยเร็วที่สุด

ขณะเดียวกัน กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ระบุ สาเหตุเบื้องต้นของท่อก๊าซธรรมชาติรั่วเกิดจากอุบัติเหตุจากการวางสมอเรือของบริษัทที่ได้รับการประมูลโครงการสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งให้กับ ปตท.พร้อมเร่งดึงก๊าซจากแหล่งเจดีเอและเพิ่มปริมาณการผลิตก๊าซจากแหล่งสิริกิติ์เข้ามาเสริมระบบผลิตไฟฟ้า

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน ได้สั่งการให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เข้าไปตรวจสอบสาเหตุเบื้องต้นของเหตุการณ์ท่อก๊าซธรรมชาติรั่วที่บริเวณอ่าวไทย พบว่า สาเหตุที่ท่อก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 1 ของบริษัท ปตท.รั่ว เกิดจาก บริษัท อุตสาหกรรมฮุนไดเฮฟวี่ อินดัสตรี ของเกาหลีใต้ บริษัทต่อเรือขนาดใหญ่ที่สุดของโลก และได้รับการประมูลโครงการสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งให้กับ ปตท.ในการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติจากแหล่งผลิตก๊าซปลาทอง 2 ไปยังท่อเส้นที่ 3 เกิดอุบัติเหตุจากการวางสมอเรือ

โดยเมื่อเวลา 01.30 ของวันที่ 26 มิถุนายน 2554 ท่อส่งก๊าซเส้นที่ 1 ได้หยุดการส่งก๊าซผ่านท่อดังกล่าวทั้งหมด ซึ่งการส่งก๊าซธรรมชาติผ่านระบบท่อส่งในอ่าวไทยรวม 2,666 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เมื่อเทียบปริมาณการส่งผ่านท่อทั้ง 3 เส้นอยู่ที่ 3,400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ที่เป็นค่าเฉลี่ยปกติ พบว่า ก๊าซจากอ่าวไทยหายไปจากระบบรวม 734 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

ดังนั้น กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ จึงได้ดำเนินการสลับการส่งก๊าซจากท่อส่งก๊าซเส้นที่ 1 ไปยังท่อส่งก๊าซเส้นที่ 2 ปริมาณ 300 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน รวมทั้งมีคำสั่งให้ ปตท.ดำเนินการหาบริเวณที่เกิดความเสียหายด้วยเครื่องสำรวจใต้น้ำ และดำเนินการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน

นอกจากนี้ ยังได้มีการเตรียมการสำรองการจ่ายก๊าซธรรมชาติจากพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ) เพื่อทดแทนปริมาณที่ขาดหายไปจากระบบ โดยส่งผ่านท่อส่งก๊าซเส้นที่ 3 ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตั้งอุปกรณ์จาก ปตท.และยังได้มีการเพิ่มปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติบนบก เพื่อผลิตไฟฟ้าจากแหล่งสิริกิติ์ปริมาณ 20 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
กำลังโหลดความคิดเห็น