ปตท.ห่วงท่อก๊าซ ระยอง-สระบุรี 4 เส้น ระยะทาง 300 กม.สะดุดยาว “ประเสริฐ” ลุ้นระทึกผลกระทบด้านสุขภาพ HIA หลังเข็นผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม EIA ผ่านไปแล้ว
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวถึงความคืบหน้าการลงทุนวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นใหญ่บนบกเส้นที่ 4 จาก จ.ระยอง-สระบุรี ระยะทาง 300 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งขณะนี้ ยังไม่สามารถเริ่มก่อสร้างได้ตามแผน โดยระบุว่า ปตท.ต้องรอฟังคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เรื่องการศึกษาผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) ว่า เข้าข่าย 8 ประเภทกิจกรรม หรือโครงการที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อประชาชนหรือไม่ แม้จะผ่านการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ไปแล้ว
ส่วนท่อส่งก๊าซธรรมชาติจาก จ.นครราชสีมา ไปยังพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ อยู่ระหว่างการศึกษาเส้นทาง และผลตอบแทนการลงทุน เพื่อให้มีความเหมาะสม
สำหรับการลงทุนขยายสถานีเอ็นจีวี ยังดำเนินการต่อไป โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีสถานีบริการ 400 แห่ง และเพิ่มเป็น 600 แห่งทั่วประเทศในปี 2555 ซึ่งบริษัทได้เชิญชวนภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนจัดตั้งสถานีก๊าซธรรมชาติหลัก ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมในการพัฒนาธุรกิจเอ็นจีวี และทำให้บริษัทมีต้นทุนในการลงทุนลดลง
ซึ่งในวันนี้ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิดสถานีก๊าซธรรมชาติหลัก (Private Mother Station) ของบริษัท สากล เอนเนอยี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนรายแรกที่ดำเนินธุรกิจจ่ายก๊าซเอ็นจีวีให้กับ ปตท.ที่ ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
โดยสถานีก๊าซธรรมชาติแห่งนี้มีศักยภาพในการจ่ายก๊าซเอ็นจีวี ปริมาณ 250 ตันต่อวัน ช่วยให้กำลังการจ่ายก๊าซเอ็นจีวีรวมของสถานีหลักของ ปตท.เพิ่มขึ้น และเพิ่มการขนส่งก๊าซเอ็นจีวีให้กับสถานีบริการนอกแนวท่อในเขตกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา ได้ถึง 19 สถานี โดยปัจจุบันมีจำนวนรถยนต์ที่ใช้เอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิง 1.52 แสนคัน ขณะที่มีปริมาณการใช้เอ็นจีวี 3,900 ตันต่อวัน