ประธาน ส.อ.ท.เชื่อ วิกฤตการเมืองยังไม่ยุติ ผลกระทบด้านเศรษฐกิจทวีความรุนแรงมากขึ้น หากศาลวินิจฉัย “สมัคร” ขาดคุณสมบัติ แต่สภาลงมติให้กลับมาดำรงตำแหน่งเหมือนเดิม แนะผ่าทางตัน ต้องโละทิ้ง รมต.ทิ้งทั้งชุด ชี้คนที่จะมาเป็นนายกฯ ต้องยอมรับได้ทุกฝ่าย
วันนี้ นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่าหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พ้นสภาพจากการเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีการลงมติเลือก นายสมัคร กลับมาดำรงตำแหน่งเช่นเดิม ก็มองว่า จะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองยังคงเกิดความวุ่นวาย และสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของประเทศมากขึ้น
ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องหารือร่วมกันและควรเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าร่วมเจรจา เพื่อหาทางออกวิกฤตทางการเมือง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ก็เชื่อว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบาย เนื่องจากนโยบายต่างๆ ยังคงมีความต่อเนื่องอยู่แล้วและห่วงในเรื่องของปัญหาที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนต้องการเห็นรัฐบาลใหม่ที่เป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่ายและมีความสามารถในการประสานความเข้าใจ แต่หากมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ก็ควรเป็นบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ และหากเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ก็ต้องเป็นผู้ประสานงานที่ดี เป็นที่ยอมรับทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
สำหรับมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร ส.อ.ท.ได้ประเมินสถานการณ์การเมืองขณะนี้ คาดว่าส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมอย่างมาก โดยเฉพาะการท่องเที่ยว และยังกระทบไปถึงอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น โรงแรม ที่ยอดจองห้องพักล่วงหน้า โดยปรับลดลงไปแล้วกว่า 20% ยอดคำสั่งซื้อสินค้าระยะยาวลดลง หลังรัฐบาลประกาศบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ทั้งนี้ หากสถานการณ์ยืดเยื้อต่อไปจนถึงสิ้นปี คาดว่า จะสร้างความเสียหายแก่ภาพรวมอุตสาหกรรมส่งออก เป็นมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท
ส.อ.ท.จึงขอเสนอ 4 ข้อเรียกร้อง ประกอบด้วย ขอให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ, ขอให้รัฐบาลยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยเร็ว เพราะกระทบต่อความไม่มั่นใจของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ, ขอให้ทุกฝ่ายหาข้อยุติโดยเร็ว และไม่ต้องการให้รัฐบาลใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา
