xs
xsm
sm
md
lg

“นิด้า” สาปส่ง “หมัก” จี้ยุบสภา-ลาออกดับวิกฤตการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมบัติ ธำรงธัญวงศ์
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เสนอ 2 ทางเลือก “หมัก” ยุบสภา หรือลาออก ผ่าวิกฤตประเทศ ชี้ออกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไร้สาระ ยุติปัญหาการเมืองไม่ได้ เตือนกองทัพอย่าเป็นเครื่องมือค้ำบัลลังก์รัฐบาล

วันนี้ (2 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ว่า ภายหลังการประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีนิด้า ได้เรียกประชุมคณะผู้บริหารสถาบัน เป็นการด่วน เพื่อหารือถึงสถานการณ์ของบ้านเมือง และได้ออกแถลงการณ์ของสถาบันฉบับที่ 1 ต่อวิกฤตการเมือง ว่า จากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกลุ่ม นปช.กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และเป็นเหตุให้รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยมอบหมายให้ ผบ.ทบ.เป็นหัวหน้าผู้รับชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ทางสถานบันขอแสดงความเสียใจและความสูญเสียที่เกิดขึ้น

ทางสถาบันขอเสนอแนะ 3 ประการ คือ 1.ขอให้ทุกฝ่ายยึดมั่นในแนวทางสันติวิธีอย่างเคร่งครัด ไม่ยั่วยุ ก่อกวนที่จะนำไปสู่การปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุม หรือก่อให้เกิดความรุนแรงในประเทศมากยิ่งขึ้น 2.วิกฤตการณ์ครั้งนี้ เป็นวิกฤตการทางการเมือง การใช้มาตรการทางกฎหมายไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และอาจเป็นการสร้างเงื่อนไข ที่จะนำไปสู่ความรุนแรงยิ่งขึ้น จนยากที่จะควบคุมได้ อันจะสร้างความเสียหายแก่ประเทศอย่างใหญ่หลวง และ 3.การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลปัดภาระความรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และใช้ทหารเป็นเครื่องมือ ทางสถาบันขอให้ ผบ.ทบ.พิจารณาไตร่ตรองตัดสินใจ และกระทำการใดๆ อย่างรอบคอบ โดยหลีกเลี่ยง การตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมือง ซึ่งอาจนำความเสียหายมาสู่กองทัพแห่งชาติได้ สถาบันจะติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด และจะแถลงให้สาธารณให้ทราบถึงจุดยืนของสถาบันเป็นระยะต่อไป

นายสมบัติ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า การเลือกใช้วิธีการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของนายกฯนั้น ไม่ได้ผล และไม่เคยได้ผลมาทั่วโลก เมื่อเกิดวิกฤตของบ้านเมืองนั้นๆ ขณะนี้รัฐบาลกำลังใช้กองทัพเป็นเครื่องมือที่จะรักษาสถานภาพของตนเองต่อไป ซึ่งตนมองว่า จะล่อแหลมต่อบ้านเมืองมาก หากกองทัพใช้อำนาจตามกฎหมายที่ พ.ร.ก.นี้ระบุไว้ เข้าสลายการชุมนุม จะเกิดความรุนแรงถึงขั้นกลียุคและถ้ากองทัพไม่ทำ ผู้นำกองทัพก็จะกลายเป็นผู้นำที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ดังนั้น การใช้วิธีทางกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลก็รู้ดีว่ากฎหมายให้ความคุ้มครองทั้งผู้ร้อง คือ โจทก์ และผู้ถูกร้อง คือ จำเลย และจะแก้ปัญหาได้อย่างไร ถ้าเลือกทางสลายม็อบ ความเสียหายจะเกินกว่าที่คาดคิด ทำเพียงเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองเพียงไม่กี่คน

เมื่อถามว่า สถาบันเห็นว่า ควรลาออกหรือยุบสภา คือ หนทางในการแก้วิกฤตหรือไม่ นายสมบัติ กล่าวว่า ไม่มีทางเลือกอื่น ในทางการเมืองภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ ทางแก้วิกฤตการเมืองด้วยวิถีทางการเมืองมีอยู่ 2 ทาง คือ นายกฯต้องยุบสภาหรือลาออก ส่วนแนวคิดรัฐบาลแห่งชาตินั้น ถ้าเป็นไปในแนวทางกรอบของรัฐธรรมนูญจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากคิดว่าจะยกเว้นการบังคับใช้รัฐธรรมนูญบางมาตราก็ต้องมีอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญต้องมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองด้วยรัฐาธิปัตย์

“ประเทศไทยวันนี้เหมือนถูกจับเป็นตัวประกันระหว่างรัฐบาลกับพันธมิตรฯ ซึ่งจะนำความสูญเสียให้กับประเทศ และระบอบประชาธิปไตย ขณะที่นายกฯไทยเลือกการแก้วิกฤติด้วยวิธีทางกฎหมาย หากหันไปมองประเทศญี่ปุ่นที่รัฐบาลเพียงมีนโยบายไม่ถูกใจประชาชนเขาไม่ต้องถามประชาชน แต่นายกฯตัดสินใจแถลงลาออกทันที แล้วจะต้องถามนายกฯไทยว่าจะให้คนไม่พอใจมากเท่าไหร่ ถึงจะรับฟัง” นายสมบัติ กล่าว

นายสมบัติ ยังกล่าวถึงมติ กกต.ที่ให้ยุบพรรคพลังประชาชนเป็นเอกฉันท์ ว่า จะยิ่งทำให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลขาดความชอบธรรมมากขึ้น เพราะพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลไม่มีความชอบธรรมตามกฎหมาย จึงเป็นเหตุเป็นผลที่จะถูกมองว่าไม่มีความชอบธรรมในการบริหารประเทศต่อไปแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น