ประธานสภาอุตสาหกรรม เผยวิกฤตการเมืองไทย กระทบอุตสาหกรรม 16 กลุ่มแล้ว ลามกลุ่มท่องเที่ยว ล่าสุดท่าเรือกรุงเทพปิดให้บริการ ส่งผลภาคนำเข้าส่งออกชะงัก หวั่นประเทศคู่ค้าย้ายคำสั่งซื้อ เชื่อการประชุมร่วม 3 ฝ่าย เป็นทางออกที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ หากปล่อยปัญหาเรื้อรังส่งผลต่อภาพลักษณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติแน่
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เหตุการณ์การเมืองในขณะนี้ได้กระทบต่ออุตสาหกรรมทั้ง 16 กลุ่มแล้ว ทั้งทางตรงและทางอ้อม หลังจากก่อนหน้านี้ ได้กระทบต่อภาคการท่องเที่ยว
นายสันติ กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดกับอุตสาหกรรม ได้แก่ กรณีการปิดท่าเรือกรุงเทพ ที่ส่งผลต่อการนำเข้าและส่งออกสินค้า หากปล่อยให้ปัญหายืดเยื้อ จะทำให้เกิดการย้ายคำสั่งซื้อไปประเทศอื่น ขณะที่ผู้ซื้อต่างประเทศก็เริ่มชะลอเดินทางเข้ามาดูสินค้าในประเทศไทยแล้ว จึงขอร้องทุกฝ่ายให้ถอยคนละก้าว เพื่อให้การส่งออกเดินหน้าต่อไปได้ เพราะปัจจุบันการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 70 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งเศรษฐกิจไทยยังไปได้ เพราะส่งออกยังดี จึงไม่ควรให้เกิดผลกระทบต่อภาคส่งออก
ประธาน ส.อ.ท. ยังกล่าวถึงการประชุมร่วม 3 ฝ่าย ในวันนี้ (8 ก.ย.) ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีถ้าหาทางออกได้ เพราะหากปล่อยให้ปัญหาเรื้อรังจะไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ สังคม และภาพลักษณ์โดยรวมของประเทศ โดยเฉพาะการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีผลต่อสายตาต่างชาติอย่างมาก ขณะที่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับภาคการท่องเที่ยว หากปัญหายืดเยื้ออาจจะทำให้มีปัญหาการชำระหนี้ของธุรกิจท่องเที่ยวได้เช่นกัน
