สคิบ เตรียมปรับลดเป้าสินเชื่อจากเดิมที่คาดว่า จะโต 10-12% หรือ 3 หมื่นล้าน ในการประชุมปลายเดือนนี้ ระบุ ภาวะเศรษฐกิจ-การเมืองไม่เอื้อ พร้อมเข้มงวดปล่อยกู้มากขึ้นคุมหนี้เน่า และเตรียมโละขายเอ็นพีแอลอีกล็อตหวังกดให้เหลือ 5%
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) เปิดเผยว่า ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ธนาคารจะมีการประชุมคณะกรรมการของธนาคาร โดยคาดว่า จะมีการพิจารณาในเรื่องการดำเนินงานของธนาคาร รวมถึงเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งก็จะต้องพิจารณาจากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังด้วย
ทั้งนี้ จากการพิจารณาจากปัจจัยดังกล่าว คาดว่า ธนาคารมีแนวโน้มต้องปรับลดเป้าหมายสินเชื่อปีนี้ เหลือเติบโต 8% หรือคิดเป็น 20,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าโต 10-12% หรือ 30,000 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจน ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวนั้น จะส่งผลกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อของธนาคารให้มีความยากลำบากมากขึ้น
นอกจากนี้ ธนาคารยังต้องมีเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของรายย่อย เนื่องจากภาวะค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง อาจทำให้ส่งผลกระทบต่อการชำระหนี้คืนได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ต้องปรับลดเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อลงมา อย่างไรก็ตาม ถือว่าสินเชื่อของธนาคารโตกว่าอุตสาหกรรมที่คาดจะโต 4-6%
“อย่างที่เห็นกันอยู่แล้วว่าในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะชะลอตัว จากปัจจัยหลักๆ ก็คือ เงินเฟ้อที่สูงขึ้นส่งผลต่อค่าครองชีพของประชาชน รวมถึงปัญหาในเรื่องการเมืองที่ยังไม่นิ่ง ขณะที่ธนาคารเองก็ต้องมีความระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจมากขึ้นเช่นกัน แต่เชื่อในที่สุดแล้วก็จะสามารถปรับตัวได้ โดยคาดว่าครึ่งหลังของปีนี้สินเชื่อของธนาคารจะเพิ่มเป็น 15,000 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกอยู่ที่ 5,000-6,000 ล้านบาท” นายชัยวัฒน์ กล่าว
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ด้านแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นในปัจจุบันนั้น ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของระบบให้ปรับเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ในส่วนเอ็นพีแอลของธนาคารถือว่ายังอยู่ในระดับที่ปกติ ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยล่าสุด อยู่ในระดับ 7% ซึ่งได้ตั้งเป้าสิ้นปีจะลดลงเหลือ 5% โดยธนาคารอาจพิจารณาตัดขาย NPL ออกบางส่วน หากได้ราคาที่เหมาะสม
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกนั้น เชื่อว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิในช่วงครึ่งแรกปีนี้ดีกว่างวดเดียวกันปีก่อน ทำให้คาดว่าทั้งปีจะพลิกมีกำไรได้
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2551 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 1,334 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 204 ล้านบาท และในปี 2550 ธนาคารมีผลการดำเนินงานขาดทุน 1,929 ล้านบาท
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) เปิดเผยว่า ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ธนาคารจะมีการประชุมคณะกรรมการของธนาคาร โดยคาดว่า จะมีการพิจารณาในเรื่องการดำเนินงานของธนาคาร รวมถึงเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งก็จะต้องพิจารณาจากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังด้วย
ทั้งนี้ จากการพิจารณาจากปัจจัยดังกล่าว คาดว่า ธนาคารมีแนวโน้มต้องปรับลดเป้าหมายสินเชื่อปีนี้ เหลือเติบโต 8% หรือคิดเป็น 20,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าโต 10-12% หรือ 30,000 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจน ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวนั้น จะส่งผลกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อของธนาคารให้มีความยากลำบากมากขึ้น
นอกจากนี้ ธนาคารยังต้องมีเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของรายย่อย เนื่องจากภาวะค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง อาจทำให้ส่งผลกระทบต่อการชำระหนี้คืนได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ต้องปรับลดเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อลงมา อย่างไรก็ตาม ถือว่าสินเชื่อของธนาคารโตกว่าอุตสาหกรรมที่คาดจะโต 4-6%
“อย่างที่เห็นกันอยู่แล้วว่าในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะชะลอตัว จากปัจจัยหลักๆ ก็คือ เงินเฟ้อที่สูงขึ้นส่งผลต่อค่าครองชีพของประชาชน รวมถึงปัญหาในเรื่องการเมืองที่ยังไม่นิ่ง ขณะที่ธนาคารเองก็ต้องมีความระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจมากขึ้นเช่นกัน แต่เชื่อในที่สุดแล้วก็จะสามารถปรับตัวได้ โดยคาดว่าครึ่งหลังของปีนี้สินเชื่อของธนาคารจะเพิ่มเป็น 15,000 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกอยู่ที่ 5,000-6,000 ล้านบาท” นายชัยวัฒน์ กล่าว
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ด้านแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นในปัจจุบันนั้น ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของระบบให้ปรับเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ในส่วนเอ็นพีแอลของธนาคารถือว่ายังอยู่ในระดับที่ปกติ ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยล่าสุด อยู่ในระดับ 7% ซึ่งได้ตั้งเป้าสิ้นปีจะลดลงเหลือ 5% โดยธนาคารอาจพิจารณาตัดขาย NPL ออกบางส่วน หากได้ราคาที่เหมาะสม
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกนั้น เชื่อว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิในช่วงครึ่งแรกปีนี้ดีกว่างวดเดียวกันปีก่อน ทำให้คาดว่าทั้งปีจะพลิกมีกำไรได้
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2551 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 1,334 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 204 ล้านบาท และในปี 2550 ธนาคารมีผลการดำเนินงานขาดทุน 1,929 ล้านบาท