xs
xsm
sm
md
lg

หนี้เน่าQ4ลด2หมื่นล.-แบงก์เล็กพุ่งสวนทาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน-ธปท.เผยตัวเลขหนี้เอ็นพีแอลไตรมาส 4 ของปี 50 ลดลงจากไตรมาสก่อนกว่า 2 หมื่นล้านบาท หรือลดลง 8.76%ของสินเชื่อรวม เหตุมีการขายหนี้เน่าให้แก่บบส.บริหารต่อพร้อมทั้งตัดหนี้สูญที่ตามไม่ไหว ขณะที่สถาบันการเงินประเภทต่างๆ ล้วนเดินหน้าลดหนี้กันมีเพียงบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ที่มีหนี้พุ่ง ซึ่งเกิดจากบค.เอเซีย ขณะที่ไทยเครดิตเพื่อรายย่อย-ทิสโก้-ธนชาตสวนกระแสระบบหนี้กลับพุ่ง

รายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจ้งว่า สายนโยบายสถาบันการเงินของธปท.ได้ประกาศตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยล่าสุดไตรมาสที่ 4 ของปี 2550 พบว่าสถาบันการเงินในระบบมียอดหนี้เอ็นพีแอลทั้งสิ้น 237,887.59 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.95%ต่อสินเชื่อรวม ลดลง 22,834.38 ล้านบาท คิดเป็น 8.76% จากไตรมาสก่อนที่มีหนี้เอ็นพีแอลทั้งสิ้น 260,722.67 ล้านบาท คิดเป็น 4.44%ของสินเชื่อรวม

ทั้งนี้ สถาบันการเงินแต่ละประเภทส่วนใหญ่มียอดหนี้เอ็นพีแอลลดลง โดยธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศมียอดเอ็นพีแอลลดลงจากไตรมาสก่อนมากที่สุดในระบบถึง 22,326.07 ล้านบาท หรือลดลง 8.76% จากปัจจุบันที่มียอดททั้งสิ้น 232,458.34 ล้านบาท สาขาธนาคารต่างชาติลดลง 425.90 ล้านบาท หรือลดลง 11.60% จากล่าสุดที่มีเอ็นพีแอลทั้งสิ้น 3,244.60 ล้านบาท และบริษัทเงินทุน(บง.)ลดลง 103.61 ล้านบาท คิดเป็น 5.22% จากไตรมาส 4 ที่มีหนี้เอ็นพีแอลทั้งสิ้น 1,881.49 ล้านบาท

ขณะที่มีเพียงบริษัทเครดิตฟองซิเอร์(บค.)ที่มียอดหนี้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 21.21 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.52% จากปัจจุบันที่มียอดหนี้ทั้งสิ้น 303.17 ล้านบาท ซึ่งยอดเอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวทั้งสิ้นเป็นส่วนของบค.เอเซีย จำกัด

อย่างไรก็ตาม แม้โดยรวมแล้วธนาคารพาณิชย์ไทยส่วนใหญ่มียอดหนี้เอ็นพีแอลลดลง ถือเป็นการบริหารจัดการที่ดี แต่ก็มีบางรายที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อยมีเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 20 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 50% จากปัจจุบันที่มียอดหนี้ทั้งสิ้น 60 ล้านบาท ธนาคารทิสโก้เพิ่มขึ้น 101 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.66% จากปัจจุบันที่มีหนี้อยู่ 1,267 ล้านบาท และธนาคารธนชาตเพิ่มขึ้น 50 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.87%จากปัจจุบันที่มียอดหนี้ 1,790 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า ปัญหาหนี้เอ็นพีแอล ซึ่งมีผลกดดันต่อธนาคารพาณิชย์ไทยในปัจจุบันอย่างมากจากภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวและเกณฑ์การจัดชั้นหนี้เสียตามสภาพของธปท. จึงทำให้เอ็นพีแอลของระบบสถาบันการเงินในช่วงครึ่งหลังปีที่ผ่านมาลดลงได้ยาก ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจไทยชะลอตัวและความผันผวนของตลาดการเงินโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินไทยด้วย ทำให้การบริหารจัดการหนี้มีความท้าทายมากขึ้น

“การลดลงส่วนใหญ่ของหนี้เอ็นพีแอลในครั้งนี้เกิดจากการตัดหนี้สูญของสถาบันการเงินของหนี้เอ็นพีแอลที่มีอายุมากกว่า 1 ปีและมีการกันสำรองหนี้ครบ 100%แล้ว และมีธนาคารพาณิชย์บางแห่งโอนขายหนี้เอ็นพีแอลในราคาส่วนลดให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ไปดำเนินการแทน”
กำลังโหลดความคิดเห็น