ไชน่าเดลี่ – ผู้คุมกฎธนาคารจีนสั่ง แบงก์ในประเทศยกหนี้เน่า ซึ่งเกิดจากเหตุแผ่นดินไหวเสฉวนให้แก่ผู้ประสบภัย พร้อมยกหนี้บัตรเครดิตให้แก่ผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายด้วย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดวันอังคาร (27 พ.ค.) พุ่งแตะ 67,183 ศพ
คณะกรรมการกำกับกิจการการธนาคารแห่งประเทศจีน (ซีบีอาร์ซี) ประกาศผ่านเว็บไซต์ สั่งธนาคารจีนยกหนี้เสียอันเกิดจากแผ่นดินไหวเสฉวน โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดภาระหนี้สินเรื่องบ้านให้แก่ผู้รอดชีวิต และเป็นความพยายามช่วยเหลือมณฑลเสฉวนฟื้นฟูเมือง
จากข้อมูลของกระทรวงกิจการพลเรือนจีน ระบุ เหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่อำเภอเวิ่นชวน ของเสฉวน ได้ทำลายบ้านไปทั้งสิ้น 2.9 หลัง และสร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่บ้าน 14 ล้านหลัง โดยผู้กู้ยืมจำนวนมากที่สูญเสียที่อยู่อาศัยจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่สามารถหาเงินมาผ่อนจ่ายนี้ได้ ซึ่งผู้คุมกฎจีนระบุว่า หากความสูญเสียของผู้กู้ยืมไม่ได้ถูกครอบคลุมโดยประกัน หรือวงเงินประกันยังไม่เพียงพอที่จะจ่ายหนี้ดังกล่าว จะถือว่าหนี้เหล่านี้เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ หนี้เสีย ทันที
นอกจากนี้ ซีบีอาร์ซี ยังให้ธนาคารพาณิชย์ยกหนี้บัตรเครดิตให้แก่เหยื่อผู้เสียชีวิตและสูญหายจากเหตุธรณีไหว ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ด้านภาษีก็จะยกเว้นหรือลดภาษีธนาคาร ซึ่งจะเป็นการช่วยลดการขาดทุนของธนาคารจากการยกหนี้เสียดังกล่าว ซึ่ง เซียว กัง ประธานธนาคารแห่งประเทศจีน ซึ่งระบุว่า ธนาคารสูญเสียเงินราว 160 ล้านหยวน (22.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) จากเหตุแผ่นดินไหว กล่าวว่า “การยกหนี้และเงินที่สูญเสียไปเหล่านี้จะส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อผลประกอบการทั้งปีของธนาคาร” เช่นเดียวกับคณะนักวิจัย ที่เชื่อว่า ธนาคารสามารถบริหารจัดการผลกระทบจากการณ์นี้ได้
ส่วนยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดวันอังคาร (27 พ.ค.) พุ่งแตะ 67,183 ศพ (เพิ่มขึ้นจาก 65,080 รายเมื่อวันจันทร์) สูญหายอีก 20,790 คน บาดเจ็บ 361,822 คน ขณะที่เผิง เต๋อชิว เมื่อวานนี้รองผู้ว่าการมณฑลเสฉวน ได้เปิดตัวเลขเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่บรรเทาทุกข์ในอำเภอเวิ่นชวน ขณะนี้มีสูงกว่า 700 คน ในจำนวนนี้มีกว่า 500 คนเป็นเจ้าหน้าที่ระดับอำเภอและเมืองเอง ซึ่งรวมไปถึงรองนายอำเภอ 2 คนด้วย
คณะกรรมการกำกับกิจการการธนาคารแห่งประเทศจีน (ซีบีอาร์ซี) ประกาศผ่านเว็บไซต์ สั่งธนาคารจีนยกหนี้เสียอันเกิดจากแผ่นดินไหวเสฉวน โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดภาระหนี้สินเรื่องบ้านให้แก่ผู้รอดชีวิต และเป็นความพยายามช่วยเหลือมณฑลเสฉวนฟื้นฟูเมือง
จากข้อมูลของกระทรวงกิจการพลเรือนจีน ระบุ เหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่อำเภอเวิ่นชวน ของเสฉวน ได้ทำลายบ้านไปทั้งสิ้น 2.9 หลัง และสร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่บ้าน 14 ล้านหลัง โดยผู้กู้ยืมจำนวนมากที่สูญเสียที่อยู่อาศัยจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่สามารถหาเงินมาผ่อนจ่ายนี้ได้ ซึ่งผู้คุมกฎจีนระบุว่า หากความสูญเสียของผู้กู้ยืมไม่ได้ถูกครอบคลุมโดยประกัน หรือวงเงินประกันยังไม่เพียงพอที่จะจ่ายหนี้ดังกล่าว จะถือว่าหนี้เหล่านี้เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ หนี้เสีย ทันที
นอกจากนี้ ซีบีอาร์ซี ยังให้ธนาคารพาณิชย์ยกหนี้บัตรเครดิตให้แก่เหยื่อผู้เสียชีวิตและสูญหายจากเหตุธรณีไหว ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ด้านภาษีก็จะยกเว้นหรือลดภาษีธนาคาร ซึ่งจะเป็นการช่วยลดการขาดทุนของธนาคารจากการยกหนี้เสียดังกล่าว ซึ่ง เซียว กัง ประธานธนาคารแห่งประเทศจีน ซึ่งระบุว่า ธนาคารสูญเสียเงินราว 160 ล้านหยวน (22.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) จากเหตุแผ่นดินไหว กล่าวว่า “การยกหนี้และเงินที่สูญเสียไปเหล่านี้จะส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อผลประกอบการทั้งปีของธนาคาร” เช่นเดียวกับคณะนักวิจัย ที่เชื่อว่า ธนาคารสามารถบริหารจัดการผลกระทบจากการณ์นี้ได้
ส่วนยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดวันอังคาร (27 พ.ค.) พุ่งแตะ 67,183 ศพ (เพิ่มขึ้นจาก 65,080 รายเมื่อวันจันทร์) สูญหายอีก 20,790 คน บาดเจ็บ 361,822 คน ขณะที่เผิง เต๋อชิว เมื่อวานนี้รองผู้ว่าการมณฑลเสฉวน ได้เปิดตัวเลขเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่บรรเทาทุกข์ในอำเภอเวิ่นชวน ขณะนี้มีสูงกว่า 700 คน ในจำนวนนี้มีกว่า 500 คนเป็นเจ้าหน้าที่ระดับอำเภอและเมืองเอง ซึ่งรวมไปถึงรองนายอำเภอ 2 คนด้วย