xs
xsm
sm
md
lg

ซับไพรม์อาจพ่นพิษจีนอีกรอบ ดันเอสเอ็มอีเจ๊ง-หนี้เน่ากระฉูด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์/เอเอฟพี – แม้ว่าประเทศจีนจะไม่มีซับไพรม์ หรือสินเชื่อด้อยคุณภาพ แต่ว่าท่ามกลางเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวลง กับการที่พิษวิกฤติซับไพรม์ลามมาถึง ทำให้ธนาคารจีนอาจต้องรับปัญหาจากหนี้เน่าที่เกิดขึ้นจากวิกฤติดังกล่าว ซึ่งขณะที่หนี้เสียเพิ่มขึ้นทุกที ผลประกอบการธนาคารกลับลดลง นอกจากนั้นกลุ่มผู้ส่งออกกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก็อาจประสบกับปัญหาด้านสินเชื่อ

การที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯอาจประสบภาวะถดถอยนี้ ถือว่าเป็นด่านความเป็นความตายสำหรับบริษัทเอสเอ็มอีในเขตเศรษฐกิจพิเศษปากแม่น้ำจูเจียง และการที่บริษัทเหล่านี้ไม่สามารถชดใช้หนี้ให้กับธนาคารได้ ก็จะก่อให้เกิดหนี้เสียจำนวนมหาศาล เพราะที่ผ่านมาการให้ธุรกิจเอสเอ็มอีกู้ยืนนั้น สามารถสร้างรายได้ให้กับธนาคารอย่างมาก ทำให้ก่อนหน้านี้ธนาคารที่เป็นวิสาหกิจรัฐหลายแห่ง ยอมไปกู้เงินมาจากต่างประเทศเพื่อปล่อยกู้ให้ ผนวกกับขณะนี้วิสาหกิจเกาหลีใต้ที่ซันตงเริ่มดำเนินกิจการต่อไปไม่ไหว ธุรกิจต่างชาติหลายกลุ่มเริ่มหนีหนี้ ล้วนเป็นที่มาของหนี้เสียก่อนใหญ่ที่รุมเร้าธนาคารจีนในตอนนี้

ทางด้านอสังหาริมทรัพย์ หนี้จากการที่ประชาชนกู้ยืมไปซื้อที่อยู่อาศัยนั้นมีความเสี่ยงไม่มากนัก เนื่องจากโดยทั่วไปจะต้องมีการวางเงินดาวน์ที่มากถึง 30% หรืออย่างน้อย 20% ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะทิ้งบ้านเพื่อหนีหนี้ไม่มากนัก แต่ด้านบริษัทที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์กลับเป็นปัญหาใหญ่ เนื่องจากธุรกิจอสังหาฯของแต่ละประเทศ มักจะอาศัยระบบดุลราคา อาศัยการกู้ยืมเงินเพื่อมาหมุนประกอบธุรกิจ ทว่าในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลจีนพยายามควบคุมราคาที่อยู่อาศัย ได้ออกมาตรการตัดไฟต้นลมหลายอย่าง ที่ทำให้ผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อยากขึ้น และต่อให้สามารถหาสินเชื่อจากต่างชาติได้ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินหยวนได้อีก

ทั้งนี้ ตัวเลขล่าสุดที่มีการเปิดเผยออกมาได้ระบุว่า ขณะนี้หนี้เสีย หรือเอ็นพีแอลของธนาคารพาณิชย์จีนเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมามีทั้งสิ้น 1.27 ล้านล้านหยวน โดยเพิ่มขึ้น 0.22% ในไตรมาสที่ 4 โดยหลายปีที่ผ่านมา การที่จีนมีผลกำไรอย่างมหาศาลมาจากการที่นโยบายการเงินได้ทำให้ความแตกต่างระหว่างเงินกู้กับเงินฝากเพิ่มขึ้น การเติบโตของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าปีนี้จะไม่หอมหวานเหมือนปีที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น