นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบูรณาการแผนการพัฒนาพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ ว่า ขณะนี้การก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อมีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562 ดังนั้น จึงต้องเร่งเตรียมการเรื่องโครงสร้าง และการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีให้แล้วเสร็จไปพร้อมๆ กัน
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่าต้องพัฒนาพื้นที่โดยรอบใน 5 พื้นที่ ได้แก่ โซนเอ 35 ไร่ ตั้งอยู่ด้านหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ตั้งอยู่ทิศใต้ของสถานีกลางบางซื่อ เหมาะที่จะพัฒนาเป็นศูนย์กลางระบบการขนส่ง และเป็นศูนย์กลางธุรกิจครบวงจร แหล่งรวมอาคารสำนักงานที่ทันสมัย และธุรกิจบริการ โซนบี 78 ไร่ ตั้งอยู่ใกล้ตลาดนัดจตุจักร มีศักยภาพรองรับการพัฒนาเป็นย่านพาณิชยกรรมแห่งใหม่ แหล่งค้าปลีก-ค้าส่ง ศูนย์รวมร้านชอปปิ้งระดับอาเซียน
สำหรับโซนซี 105 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณขนส่งหมอชิต เหมาะแก่การพัฒนาเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งทำงาน และแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง โซนดี 83 ไร่ อยู่ติดกับตลาดนัดจตุจักร ตรงข้ามตลาด อ.ต.ก. มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายและศูนย์กลางเชื่อมต่อการเดินทาง และเปิดพื้นที่การค้าเชื่อมต่อพื้นที่สถานีกลางบางซื่อกับพื้นที่พัฒนาโครงการ รวมถึงตลาดนัดจตุจักร สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที และบริเวณเหนือโซนดี ช่วง กม.11 มาสิ้นสุดที่สถานีจตุจักรของรถไฟสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) พื้นที่ 360 ไร่ พัฒนาเป็นโครงการคอมเพล็กซ์ยักษ์ โดยแต่ละโซนได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปจัดทำแผนงานว่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง
ทั้งนี้ เบื้องต้นองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้เข้าพื้นที่โซนเอ เพื่อก่อสร้างอู่จอดรถบริเวณใกล้ๆ กับศาลเยาวชนฯ คาดจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี จากนั้นบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จะใช้พื้นที่ ขสมก. ในปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างสถานีขนส่งแห่งใหม่ ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้างแล้วเสร็จกลางปี 62
นอกจากนี้ ได้เร่งให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัดทำกรอบระยะเวลาของการให้บริการของสถานีกลางบางซื่อ และการเดินรถไฟว่าจะพร้อมเปิดให้บริการได้เมื่อไร เพราะจะได้เป็นกรอบสำคัญให้ทุกหน่วยงานต้องเร่งรัดแผนงานโครงการให้แล้วเสร็จ โดยเฉพาะการวางโครงข่ายจราจร การย้ายสถานีรถ บขส. และ ขสมก. เพื่อส่งมอบพื้นที่ให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เพื่อทำโรงซ่อมรถไฟต่อไป
ขณะเดียวกัน กรุงเทพมหานคร (กทม.) ต้องเตรียมพื้นที่เวนคืนที่ดินบริเวณหลังหมอชิตเดิม เพื่อทำการก่อสร้างทางยกระดับเชื่อม (แลมป์) จากพหลโยธิน เพื่อเชื่อมเข้าอู่ซ่อมรถไฟฟ้าบีทีเอส (จตุจักร) ขณะที่กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างไปเจรจากับผู้รับสัมปทานรายเดิม และส่งสัญญาที่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้สำนักอัยการสูงสุดพิจารณาคาดว่าอีก 2-3 เดือนจะลงนามกับผู้รับสัมปทานได้
นายพีระพล กล่าวว่า สนข. ได้ศึกษาในส่วนของการพัฒนาเชิงพาณิชย์ และการเชื่อมต่อภายในเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยผลการศึกษาระบุว่า การเดินรถภายในพื้นที่จะเป็นระบบบีอาร์ที
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบให้ไปทำกรอบระยะเวลาในการดำเนินการขั้นตอนต่างๆ ให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น จะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาได้เมื่อไร กระบวนการให้เอกชนร่วมทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) และจะเปิดการเดินรถเมื่อไร เป็นต้น เพื่อให้แผนบูรณาการในภาพรวมของสถานีกลางแล้วเสร็จและสอดคล้องกันกับการพัฒนาในแต่ละพื้นที่
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่าต้องพัฒนาพื้นที่โดยรอบใน 5 พื้นที่ ได้แก่ โซนเอ 35 ไร่ ตั้งอยู่ด้านหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ตั้งอยู่ทิศใต้ของสถานีกลางบางซื่อ เหมาะที่จะพัฒนาเป็นศูนย์กลางระบบการขนส่ง และเป็นศูนย์กลางธุรกิจครบวงจร แหล่งรวมอาคารสำนักงานที่ทันสมัย และธุรกิจบริการ โซนบี 78 ไร่ ตั้งอยู่ใกล้ตลาดนัดจตุจักร มีศักยภาพรองรับการพัฒนาเป็นย่านพาณิชยกรรมแห่งใหม่ แหล่งค้าปลีก-ค้าส่ง ศูนย์รวมร้านชอปปิ้งระดับอาเซียน
สำหรับโซนซี 105 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณขนส่งหมอชิต เหมาะแก่การพัฒนาเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งทำงาน และแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง โซนดี 83 ไร่ อยู่ติดกับตลาดนัดจตุจักร ตรงข้ามตลาด อ.ต.ก. มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายและศูนย์กลางเชื่อมต่อการเดินทาง และเปิดพื้นที่การค้าเชื่อมต่อพื้นที่สถานีกลางบางซื่อกับพื้นที่พัฒนาโครงการ รวมถึงตลาดนัดจตุจักร สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที และบริเวณเหนือโซนดี ช่วง กม.11 มาสิ้นสุดที่สถานีจตุจักรของรถไฟสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) พื้นที่ 360 ไร่ พัฒนาเป็นโครงการคอมเพล็กซ์ยักษ์ โดยแต่ละโซนได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปจัดทำแผนงานว่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง
ทั้งนี้ เบื้องต้นองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้เข้าพื้นที่โซนเอ เพื่อก่อสร้างอู่จอดรถบริเวณใกล้ๆ กับศาลเยาวชนฯ คาดจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี จากนั้นบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จะใช้พื้นที่ ขสมก. ในปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างสถานีขนส่งแห่งใหม่ ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้างแล้วเสร็จกลางปี 62
นอกจากนี้ ได้เร่งให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัดทำกรอบระยะเวลาของการให้บริการของสถานีกลางบางซื่อ และการเดินรถไฟว่าจะพร้อมเปิดให้บริการได้เมื่อไร เพราะจะได้เป็นกรอบสำคัญให้ทุกหน่วยงานต้องเร่งรัดแผนงานโครงการให้แล้วเสร็จ โดยเฉพาะการวางโครงข่ายจราจร การย้ายสถานีรถ บขส. และ ขสมก. เพื่อส่งมอบพื้นที่ให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เพื่อทำโรงซ่อมรถไฟต่อไป
ขณะเดียวกัน กรุงเทพมหานคร (กทม.) ต้องเตรียมพื้นที่เวนคืนที่ดินบริเวณหลังหมอชิตเดิม เพื่อทำการก่อสร้างทางยกระดับเชื่อม (แลมป์) จากพหลโยธิน เพื่อเชื่อมเข้าอู่ซ่อมรถไฟฟ้าบีทีเอส (จตุจักร) ขณะที่กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างไปเจรจากับผู้รับสัมปทานรายเดิม และส่งสัญญาที่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้สำนักอัยการสูงสุดพิจารณาคาดว่าอีก 2-3 เดือนจะลงนามกับผู้รับสัมปทานได้
นายพีระพล กล่าวว่า สนข. ได้ศึกษาในส่วนของการพัฒนาเชิงพาณิชย์ และการเชื่อมต่อภายในเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยผลการศึกษาระบุว่า การเดินรถภายในพื้นที่จะเป็นระบบบีอาร์ที
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบให้ไปทำกรอบระยะเวลาในการดำเนินการขั้นตอนต่างๆ ให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น จะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาได้เมื่อไร กระบวนการให้เอกชนร่วมทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) และจะเปิดการเดินรถเมื่อไร เป็นต้น เพื่อให้แผนบูรณาการในภาพรวมของสถานีกลางแล้วเสร็จและสอดคล้องกันกับการพัฒนาในแต่ละพื้นที่