นายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด(เคที) วิสาหกิจของกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงการปรับราคาค่าโดยสารรถเมล์ด่วนพิเศษหรือบีอาร์ที(BRT) เพิ่มขึ้นจากราคาที่ให้บริการปัจจุบันคือ 5 บาท ตลอดสายว่า หลังจาก ที่ผู้บริหารกทม.มอบหมายให้เคทีทำการศึกษาการจัดเก็บอัตราใหม่เนื่องจากการเก็บค่าโดยสาร 5 บาท ตลอดสายนั้น ทำให้ กทม.ต้องแบกรับค่าโดยสารจำนวนมาก อีกทั้งปริมาณผู้ใช้บริการไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ คือ 30,000 คน โดยมีผู้ใช้บริการประมาณ 20,000 คน เท่านั้น
จึงทำให้กทม.ต้องปรับเปลี่ยนราคาโดยได้ทำหนังสือไปยังกรมขนส่งทางบก(ขบ.) เพื่อขอเลื่อนเก็บค่าโดยสาร 5 บาท ตลอดสายออกไปอีก ระหว่างวันที่ 1-31 มี.ค.เพื่อพิจารณาราคาค่าโดยสารซึ่งมีแนวโน้มที่จะเก็บในอัตราตามระยะทางและช่วงเวลาในการจัดเก็บนั้น ผู้บริหารกทม.จะแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ในส่วนของการให้บริการบีอาร์ทีนั้นผู้โดยสารไม่เป็นไปตามเป้าหมายและ กทม.ต้องแบกรับค่าโดยสารจึงอาจจะพิจารณายกเลิกโครงการแต่จะต้องมีทางเลือกในการเดินทางให้ประชาชนซึ่งหากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเทา (ช่วงวัชรพล-สะพานพระราม9)
ที่เป็นแนวเส้นทางเดียวกันก่อสร้างแล้วเสร็จก็อาจจะยกเลิกการเดินรถบีอาร์ที
ในส่วนของความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเทานั้น มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว ส่วนการดำเนินโครงการนั้นด้วยงบประมาณโครงการประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาทแต่ กทม.ยังไม่พร้อมจะแบกรับภาระเงินกู้จำนวนมาก ในขณะนี้ได้ศึกษารูปแบบการลงทุนจนคิดว่า การเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนหรือสัมปทานมีความเหมาะสมมากที่สุด แต่ต้องสร้างแรงจูงใจให้เอกชนมากขึ้น แต่ขณะนี้ยังติดปัญหาการสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงหรือเดปโป้ที่กทม.ขอใช้พื้นที่ตามแนวทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ร่วมกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) ในจุดเดียวกัน แต่ขณะนี้การหารือยังไม่เป็นที่สิ้นสุดว่า สามารถใช้พื้นที่ร่วมกันได้หรือไม่ จึงยังไม่สามารถสรุปเป็นข้อมูลเป็นแนวทางการลงทุนเพื่อนำเสนอเอกชนได้ หากได้ข้อสรุประหว่างกทม.และกทพ. ก็น่าจะมีความชัดเจนเรื่องแผนการลงทุนโครงการที่ชัดเจน
จึงทำให้กทม.ต้องปรับเปลี่ยนราคาโดยได้ทำหนังสือไปยังกรมขนส่งทางบก(ขบ.) เพื่อขอเลื่อนเก็บค่าโดยสาร 5 บาท ตลอดสายออกไปอีก ระหว่างวันที่ 1-31 มี.ค.เพื่อพิจารณาราคาค่าโดยสารซึ่งมีแนวโน้มที่จะเก็บในอัตราตามระยะทางและช่วงเวลาในการจัดเก็บนั้น ผู้บริหารกทม.จะแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ในส่วนของการให้บริการบีอาร์ทีนั้นผู้โดยสารไม่เป็นไปตามเป้าหมายและ กทม.ต้องแบกรับค่าโดยสารจึงอาจจะพิจารณายกเลิกโครงการแต่จะต้องมีทางเลือกในการเดินทางให้ประชาชนซึ่งหากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเทา (ช่วงวัชรพล-สะพานพระราม9)
ที่เป็นแนวเส้นทางเดียวกันก่อสร้างแล้วเสร็จก็อาจจะยกเลิกการเดินรถบีอาร์ที
ในส่วนของความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเทานั้น มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว ส่วนการดำเนินโครงการนั้นด้วยงบประมาณโครงการประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาทแต่ กทม.ยังไม่พร้อมจะแบกรับภาระเงินกู้จำนวนมาก ในขณะนี้ได้ศึกษารูปแบบการลงทุนจนคิดว่า การเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนหรือสัมปทานมีความเหมาะสมมากที่สุด แต่ต้องสร้างแรงจูงใจให้เอกชนมากขึ้น แต่ขณะนี้ยังติดปัญหาการสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงหรือเดปโป้ที่กทม.ขอใช้พื้นที่ตามแนวทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ร่วมกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) ในจุดเดียวกัน แต่ขณะนี้การหารือยังไม่เป็นที่สิ้นสุดว่า สามารถใช้พื้นที่ร่วมกันได้หรือไม่ จึงยังไม่สามารถสรุปเป็นข้อมูลเป็นแนวทางการลงทุนเพื่อนำเสนอเอกชนได้ หากได้ข้อสรุประหว่างกทม.และกทพ. ก็น่าจะมีความชัดเจนเรื่องแผนการลงทุนโครงการที่ชัดเจน