รายงานข่าวแจ้งว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สั่งการให้ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ชี้แจงกรณีครอบครัวแบเลเว็ลด์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ AAV ขายหุ้นให้กลุ่มคิงเพาเวอร์ มูลค่าเกือบ 8 พันล้านบาท หลังปฎิเสธมาโดยตลอด เพื่อให้ผู้ลงทุนได้ทราบข้อเท็จจริง โดยขอให้ชี้แจงภายในวันที่ 16 มิถุนายนนี้
ทั้งนี้ครอบครัวแบเลเว็ลด์ ประกอบด้วย นายธรรศพลฐ์ นางสาวภัทรี แบเลเว็ลด์ และนางศิริธร แบเลเว็ลด์ ได้ขายหุ้น AAV ให้กับกลุ่มนายวิชัย ศรีวัฒนประภา จํานวน 1,891.59 ล้านหุ้น หรือ 39% ของทุนชําระของ AAV ในราคาหุ้นละ 4.20 บาท เป็นผลให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ของ AAV เปลี่ยนแปลงไป โดยกลุ่มนายวิชัย ศรีวัฒนประภา เข้ามาถือหุ้นใน AAV จํานวน 1,931.59 ล้านหุ้น หรือ 39.82% ของทุนชําระของ AAV และครอบครัวแบเลเว็ลด์ถือหุ้นเหลือเพียง 242.50 ล้านหุ้น หรือ 5% ของทุนชําระของ AAV
สำหรับการเคลื่อนไหวของหุ้นไทยแอร์เอเซียวานนี้ (14มิ.ย.) ได้ปรับตัวลดลงทันที ตั้งแต่เริ่มเปิดตลาด จากระดับราคาปิดเมื่อวานที่ 6 บาท ลงมาอยู่ที่ 5 บาท 65 สตางค์ จากนั้นเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดการซื้อขายในภาคเช้า แต่หลังจากเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ราคาได้รับตัวสูงขึ้นตลอดการซื้อขายในภาคบ่าย จนกระทั่งปิดตลาดที่ราคา 6.20 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.20 บาท
ด้านนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มคิงเพาเวอร์ ร่วมแถลงข่าวกับนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ผู้ดำเนินธุรกิจสายการบินไทยแอร์เอเชีย หลังมีการซื้อหุ้นไทยแอร์เอเซีย 1,891 ล้านหุ้น หรือ 39% ของหุ้นทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 4.20 บาท หรือประมาณ 7,944.67 ล้านบาท ส่งผลให้กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของแอร์เอเชีย ขณะที่กลุ่มตระกูลแบเลเว็ลด์ ยังคงเหลือสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ 5%
สำหรับการซื้อหุ้นครั้งนี้ เป็นการลงทุนระยะยาวของครอบครัว ที่จะนำประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของเครือข่ายการค้าของกลุ่มคิงเพาเวอร์ มาต่อยอดและส่งเสริมธุรกิจไทยแอร์เอเชีย โดยมุ่งเป้าหมายที่นักท่องเที่ยวจีนที่มาไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้านนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ยืนยันว่า ราคาที่ซื้อขายกัน เป็นราคาที่เหมาะสม เพราะการเป็นการลงทุนระยะยาว
ทั้งนี้ครอบครัวแบเลเว็ลด์ ประกอบด้วย นายธรรศพลฐ์ นางสาวภัทรี แบเลเว็ลด์ และนางศิริธร แบเลเว็ลด์ ได้ขายหุ้น AAV ให้กับกลุ่มนายวิชัย ศรีวัฒนประภา จํานวน 1,891.59 ล้านหุ้น หรือ 39% ของทุนชําระของ AAV ในราคาหุ้นละ 4.20 บาท เป็นผลให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ของ AAV เปลี่ยนแปลงไป โดยกลุ่มนายวิชัย ศรีวัฒนประภา เข้ามาถือหุ้นใน AAV จํานวน 1,931.59 ล้านหุ้น หรือ 39.82% ของทุนชําระของ AAV และครอบครัวแบเลเว็ลด์ถือหุ้นเหลือเพียง 242.50 ล้านหุ้น หรือ 5% ของทุนชําระของ AAV
สำหรับการเคลื่อนไหวของหุ้นไทยแอร์เอเซียวานนี้ (14มิ.ย.) ได้ปรับตัวลดลงทันที ตั้งแต่เริ่มเปิดตลาด จากระดับราคาปิดเมื่อวานที่ 6 บาท ลงมาอยู่ที่ 5 บาท 65 สตางค์ จากนั้นเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดการซื้อขายในภาคเช้า แต่หลังจากเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ราคาได้รับตัวสูงขึ้นตลอดการซื้อขายในภาคบ่าย จนกระทั่งปิดตลาดที่ราคา 6.20 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.20 บาท
ด้านนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มคิงเพาเวอร์ ร่วมแถลงข่าวกับนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ผู้ดำเนินธุรกิจสายการบินไทยแอร์เอเชีย หลังมีการซื้อหุ้นไทยแอร์เอเซีย 1,891 ล้านหุ้น หรือ 39% ของหุ้นทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 4.20 บาท หรือประมาณ 7,944.67 ล้านบาท ส่งผลให้กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของแอร์เอเชีย ขณะที่กลุ่มตระกูลแบเลเว็ลด์ ยังคงเหลือสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ 5%
สำหรับการซื้อหุ้นครั้งนี้ เป็นการลงทุนระยะยาวของครอบครัว ที่จะนำประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของเครือข่ายการค้าของกลุ่มคิงเพาเวอร์ มาต่อยอดและส่งเสริมธุรกิจไทยแอร์เอเชีย โดยมุ่งเป้าหมายที่นักท่องเที่ยวจีนที่มาไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้านนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ยืนยันว่า ราคาที่ซื้อขายกัน เป็นราคาที่เหมาะสม เพราะการเป็นการลงทุนระยะยาว
