บล.กสิกรไทย มองความกังวลอังกฤษออกจากอียูกดดันตลาดหุ้นเพียง 1 เดือน หลังจากนั้นตลาดหุ้นไทยจะดีขึ้นจากปัจจัยบวกในประเทศ ส่งผลให้ดัชนีทั้งปีอยู่ที่ 1,500 จุด ส่วนกรณีกลุ่มคิงเพาเวอร์ซื้อไทยแอร์เอเชีย คาดเป็นการต่อยอดธุรกิจ
นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย กล่าวว่า กรณีตลาดหุ้นรอผลประชามติว่า สหราชอาณาจักร หรืออังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรปหรือไม่ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยระยะสั้นเพียง 1 เดือน โดยประเมินกรอบดัชนีที่ 1,300-1,400 จุด
นายกวี ระบุว่า หลังจากความกังวลดังกล่าวผ่านพ้นไปแล้ว ตลาดหุ้นไทยจะดีดตัวกลับขึ้นมาได้จากปัจจัยภายในประเทศที่ภาวะเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้น การท่องเที่ยว การลงทุนภาครัฐ รวมถึงราคาสินค้าเกษตรปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ดัชนีทั้งปีอยู่ที่ 1,500 จุด จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1,470
พร้อมกันนี้ ยังประเมินภาพรวมตลาดในปีหน้า โดยมองว่า ดัชนีฯ น่าจะอยู่ที่ 1,530 จุด โดยหุ้นที่นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ คือ หุ้นในกลุ่มการบริโภคการลงทุนภายในประเทศ การท่องเที่ยว โรงพยาบาล สายการบิน อสังหาริมทรัพย์ และรับเหมาก่อสร้าง
ส่วนกรณีที่ นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ขายหุ้น AAV หรือไทยแอร์เอเชีย ร้อยละ 39 ให้กลุ่ม นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ผู้บริหารกลุ่มคิงเพาเวอร์ มองว่าเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเสริมธุรกิจซึ่งกันและกัน เนื่องจากกลุ่มคิงเพาเวอร์ เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในธุรกิจสินค้าปลอดภาษี หรือดิวตี้ ฟรี
ทั้งนี้ บล.กสิกรฯ มองว่า ภาพรวมของอุตสาหการการบินที่อยู่ในทิศทางที่ดี เนื่องจากราคาน้ำมันอยู่ในราคาต่ำ โดยคาดว่า AAV จะอยู่ที่ 7 บาทต่อหุ้น สำหรับประเด็นที่ต้องติดตามในระยะกลาง เเละในระยะยาว คือ ราคาน้ำมันที่อาจจะแพงขึ้นส่งผลต่อต้นทุน ซึ่งในระยะ 5-10 ปี การแข่งขันก็จะรุนเเรงขึ้น