ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากนำทีมสำรวจปะการังในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการอุทยานทางทะเลที่ 3 จ.ตรัง และอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
ทั้งนี้ปรากฏว่าพบปะการังฟอกขาวเกิดทุกพื้นที่ของอุทยานฯ โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ปานกลาง ไม่เกินร้อยละ 50 พบที่หมู่เกาะพีพี กระจายอยู่ทั่วไปประมาณร้อยละ 50 ระดับรุนแรง ร้อยละ 20 ส่วนระดับที่วิกฤติสุดพบในหมู่เกาะปอดะ ทะเลแหวก ประมาณร้อยละ 90
สำหรับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น จำเป็นที่จะต้องหามาตรการในการฟื้นฟู โดยหลังสำรวจได้หารือกับผู้ประกอบการทั้งภาครัฐ และเอกชนในท้องถิ่น ได้ข้อสรุปออกมา 3 มาตรการ คือ งด ลด และควบคุม โดยการงดเว้นกิจกรรมท่องเที่ยว การดำน้ำ 5 จุด คือ แนวปะการังน้ำตื้นที่ทะเลแหวก เกาะพีพีดอน 2 จุด และพีพีเล 2 จุด ซึ่งเป็นเขตดำน้ำลึกที่เกิดปะการังฟอกขาวอยู่จำนวนมาก ซึ่งผู้ประกอบการดำน้ำก็เห็นด้วยเนื่องจากว่าการปิดจุดดังกล่าวเป็นการชั่วคราวก็ไม่เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแต่อย่างใด
อีกทั้งผู้ประกอบการต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ หรือเลี่ยงไปยังจุดอื่น
อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์ปะการังฟอกขาวในพื้นที่เกาะยูง ที่มีการประกาศปิดไปก่อนหน้านี้นั้น จากการสำรวจพบว่า ไม่มีการฟอกขาวเพิ่ม สาเหตุก็เพราะไม่มีการรบกวนทั้งจากเรือ และนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ปรากฏว่าพบปะการังฟอกขาวเกิดทุกพื้นที่ของอุทยานฯ โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ปานกลาง ไม่เกินร้อยละ 50 พบที่หมู่เกาะพีพี กระจายอยู่ทั่วไปประมาณร้อยละ 50 ระดับรุนแรง ร้อยละ 20 ส่วนระดับที่วิกฤติสุดพบในหมู่เกาะปอดะ ทะเลแหวก ประมาณร้อยละ 90
สำหรับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น จำเป็นที่จะต้องหามาตรการในการฟื้นฟู โดยหลังสำรวจได้หารือกับผู้ประกอบการทั้งภาครัฐ และเอกชนในท้องถิ่น ได้ข้อสรุปออกมา 3 มาตรการ คือ งด ลด และควบคุม โดยการงดเว้นกิจกรรมท่องเที่ยว การดำน้ำ 5 จุด คือ แนวปะการังน้ำตื้นที่ทะเลแหวก เกาะพีพีดอน 2 จุด และพีพีเล 2 จุด ซึ่งเป็นเขตดำน้ำลึกที่เกิดปะการังฟอกขาวอยู่จำนวนมาก ซึ่งผู้ประกอบการดำน้ำก็เห็นด้วยเนื่องจากว่าการปิดจุดดังกล่าวเป็นการชั่วคราวก็ไม่เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแต่อย่างใด
อีกทั้งผู้ประกอบการต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ หรือเลี่ยงไปยังจุดอื่น
อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์ปะการังฟอกขาวในพื้นที่เกาะยูง ที่มีการประกาศปิดไปก่อนหน้านี้นั้น จากการสำรวจพบว่า ไม่มีการฟอกขาวเพิ่ม สาเหตุก็เพราะไม่มีการรบกวนทั้งจากเรือ และนักท่องเที่ยว
