กระบี่ - ดร.ธรณ์ งัด 3 มาตรการ งด ลด และควบคุม ดูแลปะการังฟอกขาวในเขตพื้นที่อุทยานหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนักวิชาการทางทะเลชื่อดัง เปิดเผยว่า ภายหลังจากนำทีมสำรวจปะการังในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการอุทยานทางทะเลที่ 3 จ.ตรัง และอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ในระหว่างวันที่ 19-24 พ.ค.59 ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า พบปะการังฟอกขาวเกิดทุกพื้นที่ของอุทยานฯ โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ปานกลาง ไม่เกินร้อยละ 50 พบที่หมู่เกาะพีพี กระจายอยู่ทั่วไปประมาณร้อยละ 50 ระดับรุนแรง 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนระดับที่วิกฤติสุดพบในหมู่เกาะปอดะ ทะเลแหวก ประมาณร้อยละ 90
ดร.ธรณ์ กล่าวอีกว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจำเป็นที่จะต้องหามาตรการในการฟื้นฟู โดยหลังการสำรวจก็ได้หารือกับผู้ประกอบการทั้งภาครัฐ และเอกชนในท้องถิ่น ได้ข้อสรุปออกมา 3 มาตรการ คือ งด ลด และควบคุม โดยการงดเว้นกิจกรรมท่องเที่ยว การดำน้ำ 5 จุด ประกอบด้วย จุดแรกคือ แนวปะการังน้ำตื้นที่ทะเลแหวก ส่วนอีก 4 จุด คือ ที่เกาะพีพีดอน 2 จุด และพีพีเล 2 จุด ซึ่งเป็นเขตดำน้ำลึกที่เกิดปะการังฟอกขาวอยู่จำนวนมาก ซึ่งผู้ประกอบการดำน้ำก็เห็นด้วยเนื่องจากว่าการปิดจุดดังกล่าวเป็นการชั่วคราวก็ไม่เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแต่อย่างใด
โดยจะงดเว้นการดำน้ำทั้งจุด ทั้งระหว่างที่เสนอเรื่องเพื่อรอการประกาศจากประกาศปิดอย่างเป็นทางการจากกรมอุทยานฯ นั้น ทางผู้ประกอบการพร้อมที่จะงดกิจกรรมท่องเที่ยวบริเวณที่เกิดปะการังฟอกขาว รวมทั้งช่วยกันประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ โดยเริ่มงดเว้นตั้งแต่วันนี้โดยไม่ต้องรอภาครัฐเพราะสามารถทำควบคู่กันไปได้เลย
ส่วนการบริหารจัดการ หรือการวางแนวเขตควบคุมพื้นที่นั้นก็ต้องรองบประมาณจากภาครัฐ และเอกชนสนับสนุนงบประมาณเข้ามาติดตั้งทุ่นต่อไป อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์ปะการังฟอกขาวในพื้นที่เกาะยูง ที่มีการประกาศปิดไปก่อนหน้านี้นั้น จากการสำรวจพบว่า ไม่มีการฟอกขาวเพิ่ม สาเหตุก็เพราะไม่มีการรบกวนทั้งจากเรือ และนักท่องเที่ยว ดร.ธรณ์ กล่าว