พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปตรวจเยี่ยม และเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กๆ ที่บ้านนางนวลน้อย ทิมกุล หรือ ครูน้อย ที่ซอยราษฎร์บูรณะ 26 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการประกาศปิดบ้านในวันนี้ เนื่องจากไม่มีกำลังทรัพย์เพียงพอในการดูแลเด็กๆ จำนวน 65 คน ที่ต้องเลี้ยงดู อีกทั้งยังเป็นหนี้นอกระบบที่ไปหยิบยืมมาใช้จ่ายจำนวนมาก
โดย พล.ต.อ.พงศพัศ ได้มอบเงินตั้งต้น 100,000 บาท ให้ครูน้อย
พร้อมระบุว่า จากการที่ได้พูดคุยกับครูน้อยพบว่า ครูน้อยอยากทำบ้านต่ออีก 3 ปี
เพื่อให้เด็กๆ เหล่านี้โตพอที่จะช่วยเหลือตนเองได้ และจากการลงพื้นที่ไปพูดคุยกับครอบครัวของเด็กๆ บางส่วนที่อยู่ในการดูแลของบ้านครูน้อย พบว่าบางครอบครัวไม่มีรายได้เพียงพอในการเลี้ยงดูบุตร หรือบางครอบครัวผู้ปกครองถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำทั้งในคดียาเสพติด และคดีอื่นๆ ซึ่งในจำนวนนี้มีบางส่วนเพียงมาอาศัยทานอาหารในช่วงที่ผู้ปกครองไม่อยู่ อีกทั้งเบื้องต้นได้พูดคุยกับเจ้าหนี้นอกระบบแล้วบางส่วน เพื่อชดใช้หนี้สินและขอลดหย่อนรวมถึงขอความร่วมมือไม่ให้ครูน้อยมีการกู้ยืมอีกเด็ดขาด ซึ่งหากพบว่าครูน้อยยืมอีกและกลับมามีปัญหาเช่นเดิมอีก จะไม่ช่วยเหลืออีกแล้ว ซึ่งได้กำชับว่าให้ใช้จ่ายเท่าที่มี แต่ถ้าหากไม่เพียงพอจริงๆ ให้บอก ซึ่งตนเองจะเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธามาช่วยบริจาค
ด้านครูน้อย ระบุว่า ช่วงชีวิตที่ผ่านมา 30 ปี มีความผูกพันกับเด็กๆ จึงไม่ได้มีกฎระเบียบตายตัวในเรื่องของการใช้จ่าย เนื่องจากอยากให้เด็กทุกคนกินอิ่มนอนหลับ และมีการศึกษา แต่หลังจากนี้จะนำบทเรียนที่ผ่านมาที่ทำให้ต้องเกือบปิดบ้านหลังนี้ไปมาใช้ เพื่อเตือนสติยืนยันไม่เคยนำเงินบริจาคไปใช้จ่ายส่วนตัว หรือภายในครอบครัวตามที่ถูกสังคมโจมตี ไม่มีแก้วแหวนเงินทอง ไม่เคยซื้อที่ดิน ส่วนในเรื่องการบริหารการเงินของบ้าน มีเจ้าหน้าที่ทำบัญชีรายรับรายจ่าย ส่วนเงิน 100,000 บาท ที่ได้รับจาก พล.ต.อ.พงศพัศ จะนำส่วนหนึ่งไปชำระหนี้สิน ทั้งค่าอาหาร ค่าเล่าเรียนของเด็กๆ
โดย พล.ต.อ.พงศพัศ ได้มอบเงินตั้งต้น 100,000 บาท ให้ครูน้อย
พร้อมระบุว่า จากการที่ได้พูดคุยกับครูน้อยพบว่า ครูน้อยอยากทำบ้านต่ออีก 3 ปี
เพื่อให้เด็กๆ เหล่านี้โตพอที่จะช่วยเหลือตนเองได้ และจากการลงพื้นที่ไปพูดคุยกับครอบครัวของเด็กๆ บางส่วนที่อยู่ในการดูแลของบ้านครูน้อย พบว่าบางครอบครัวไม่มีรายได้เพียงพอในการเลี้ยงดูบุตร หรือบางครอบครัวผู้ปกครองถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำทั้งในคดียาเสพติด และคดีอื่นๆ ซึ่งในจำนวนนี้มีบางส่วนเพียงมาอาศัยทานอาหารในช่วงที่ผู้ปกครองไม่อยู่ อีกทั้งเบื้องต้นได้พูดคุยกับเจ้าหนี้นอกระบบแล้วบางส่วน เพื่อชดใช้หนี้สินและขอลดหย่อนรวมถึงขอความร่วมมือไม่ให้ครูน้อยมีการกู้ยืมอีกเด็ดขาด ซึ่งหากพบว่าครูน้อยยืมอีกและกลับมามีปัญหาเช่นเดิมอีก จะไม่ช่วยเหลืออีกแล้ว ซึ่งได้กำชับว่าให้ใช้จ่ายเท่าที่มี แต่ถ้าหากไม่เพียงพอจริงๆ ให้บอก ซึ่งตนเองจะเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธามาช่วยบริจาค
ด้านครูน้อย ระบุว่า ช่วงชีวิตที่ผ่านมา 30 ปี มีความผูกพันกับเด็กๆ จึงไม่ได้มีกฎระเบียบตายตัวในเรื่องของการใช้จ่าย เนื่องจากอยากให้เด็กทุกคนกินอิ่มนอนหลับ และมีการศึกษา แต่หลังจากนี้จะนำบทเรียนที่ผ่านมาที่ทำให้ต้องเกือบปิดบ้านหลังนี้ไปมาใช้ เพื่อเตือนสติยืนยันไม่เคยนำเงินบริจาคไปใช้จ่ายส่วนตัว หรือภายในครอบครัวตามที่ถูกสังคมโจมตี ไม่มีแก้วแหวนเงินทอง ไม่เคยซื้อที่ดิน ส่วนในเรื่องการบริหารการเงินของบ้าน มีเจ้าหน้าที่ทำบัญชีรายรับรายจ่าย ส่วนเงิน 100,000 บาท ที่ได้รับจาก พล.ต.อ.พงศพัศ จะนำส่วนหนึ่งไปชำระหนี้สิน ทั้งค่าอาหาร ค่าเล่าเรียนของเด็กๆ