พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือครอบครัวเด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสถานรับเลี้ยงเด็กของ นางนวลน้อย ทิมกุล หรือ ครูน้อย พร้อมมอบเงินสงเคราะห์ให้กับครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 36 ครอบครัว ๆ ละ 1,000-3,000 บาท
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ครูน้อยได้ขอจดทะเบียน บ้านครูน้อย เป็นสถานรับเลี้ยงเด็กกับกรมประชาสงเคราะห์ เมื่อปี 2542 ซึ่งปัจจุบันครูน้อยไม่ได้ต่ออายุใบอนุญาตจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก แต่ยังคงให้ความช่วยเหลือเด็กและครอบครัวยากจนด้วยเงินบริจาคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 8 คน ดูแลเด็กและเยาวชน 64 คน จาก 36 ครอบครัว ในจำนวนนี้มีเด็กพิการด้วย 8 คน แต่วันนี้ครูน้อยได้ตัดสินใจปิดบ้านครูน้อยสถานรับเลี้ยงเด็กแล้ว ส่วนเรื่องหนี้สินที่เหลืออีก 8 แสนบาท พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จะช่วยดูแลให้ โดยเรียกเจ้าหนี้นอกระบบที่ครูน้อยไปกู้ยืมมาพูดคุยในรายละเอียด เหลือเท่าไรจะดูแลให้ แต่เงินที่เคลียร์หนี้ไม่เกี่ยวกับหน่วยงานรัฐแต่อย่างใด
ด้านครูน้อย กล่าวว่า รู้สึกใจหายที่ต้องปิดบ้านถาวร เพราะตลอด 35 ปีที่ผ่านมา ได้ทำงานเพื่อเด็กมาโดยตลอด โดยขอยืนยันว่าไม่เคยหากินกับเงินที่มีผู้บริจาคให้เด็ก แต่หากยังคงเปิดบ้านต่อไป ตนก็เป็นหนี้ตลอด จึงตัดสินใจยุติบทบาทบ้านครูน้อย ส่วนเด็กทั้งหมด ทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะรับไปดูแล จากนี้ตนจะเก็บของไปอยู่กับลูก พร้อมประกาศขายบ้านครูน้อย พื้นที่ 177 ตารางวา ในราคา 9 ล้านบาท
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ครูน้อยได้ขอจดทะเบียน บ้านครูน้อย เป็นสถานรับเลี้ยงเด็กกับกรมประชาสงเคราะห์ เมื่อปี 2542 ซึ่งปัจจุบันครูน้อยไม่ได้ต่ออายุใบอนุญาตจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก แต่ยังคงให้ความช่วยเหลือเด็กและครอบครัวยากจนด้วยเงินบริจาคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 8 คน ดูแลเด็กและเยาวชน 64 คน จาก 36 ครอบครัว ในจำนวนนี้มีเด็กพิการด้วย 8 คน แต่วันนี้ครูน้อยได้ตัดสินใจปิดบ้านครูน้อยสถานรับเลี้ยงเด็กแล้ว ส่วนเรื่องหนี้สินที่เหลืออีก 8 แสนบาท พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จะช่วยดูแลให้ โดยเรียกเจ้าหนี้นอกระบบที่ครูน้อยไปกู้ยืมมาพูดคุยในรายละเอียด เหลือเท่าไรจะดูแลให้ แต่เงินที่เคลียร์หนี้ไม่เกี่ยวกับหน่วยงานรัฐแต่อย่างใด
ด้านครูน้อย กล่าวว่า รู้สึกใจหายที่ต้องปิดบ้านถาวร เพราะตลอด 35 ปีที่ผ่านมา ได้ทำงานเพื่อเด็กมาโดยตลอด โดยขอยืนยันว่าไม่เคยหากินกับเงินที่มีผู้บริจาคให้เด็ก แต่หากยังคงเปิดบ้านต่อไป ตนก็เป็นหนี้ตลอด จึงตัดสินใจยุติบทบาทบ้านครูน้อย ส่วนเด็กทั้งหมด ทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะรับไปดูแล จากนี้ตนจะเก็บของไปอยู่กับลูก พร้อมประกาศขายบ้านครูน้อย พื้นที่ 177 ตารางวา ในราคา 9 ล้านบาท