เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2558 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.ท.ภาษิต ไพรัตน์ รองผกก.จร.สน.วังทองหลาง นำตัว ด.ต.จักรวาล วงศ์ชัย ผบ.หมู่งานจราจร สน.วังทองหลาง ซึ่งเป็นตำรวจที่ปรากฏในคลิปที่มีการแชร์ทางโซเชียลมีเดีย และมีข้อความระบุว่าเป็นตำรวจจราจรที่ตั้งด่านจราจรในลักษณะมึนเมา เข้าพบ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า ตนเองได้ดูคลิปดังกล่าวแล้ว จึงได้เรียก พ.ต.ท.ภาษิต และ ด.ต.จักรวาล ซึ่งเป็นตำรวจที่ปรากฏในคลิป มาชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้น เบื้องต้นได้รับการชี้แจงว่าเป็นการจับกุมข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายจราจรตามปกติ โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา เหตุเกิดบริเวณจุดกลับรถ ซ.ลาดพร้าว 86 ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งได้มีการยั่วยุกันจึงไม่ได้มีการจับกุม จากการสอบถาม ด.ต.จักรวาล ยืนยันว่าไม่ได้มีการเมาสุราขณะปฏิบัติหน้าที่ และก่อนที่จะมาเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ก็ไม่ได้มีการดื่มสุราแต่อย่างใด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่า ด.ต.จักรวาล ซึ่งเป็นตำรวจที่ปรากฏในคลิปมีอาการเมาสุราจริงหรือไม่ โดยตนได้สั่งการให้ ผกก.สน.วังทองหลาง ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ต้องดูอาการของตำรวจนายนี้ก่อนว่า โดยปกติมีบุคลิกลักษณะอย่างไร แต่โดยปกติ ด.ต.จักรวาล เป็นคนที่พูดจาเสียงยานๆ หน้าแดงอยู่ตลอดเวลา และมีความผิดปกติที่กระดูกสันหลังทำให้เวลาเดินลักษณะคล้ายคนเมา อาการทั่วไปก็ดูแปลกๆ แต่ที่ยืนยันได้คือพฤติกรรมที่แสดงออกรวมทั้งคำพูดที่ปรากฏในคลิป ไม่เหมาะสมอย่างแน่นอน ซึ้่งตรงนี้ได้สั่งให้ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยด้วย โดยระหว่างนี้จะให้พักการปฏิบัติหน้าที่ โดยให้ย้ายมาช่วยงานธุรการ
"ขณะนี้ยังไม่สรุปว่า ด.ต.จักรวาล เมาสุรา ขณะปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการก่อน ซึ่งจะบอกว่าเขาเมาเลยก็คงไม่ได้ ต้องมีพยานซึ่งอาจเป็นตำรวจที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุมายืนยันว่าในวันเกิดเหตุ ด.ต.จักรวาล ได้ทำงาน แล้วทำงานอย่างไร มีใครที่ทำงานอยู่ด้วยกัน มีการดื่มสุราหรือไม่ นอกจากนี้จะเชิญผู้ที่ถ่ายคลิปมาให้การเป็นพยานด้วย เพราะเราดูคลิปซึ่งเป็นเหตุการณ์ในท่อนหลัง ส่วนในท่อนแรกเราไม่ได้ดู อาจมีการพูดจายั่วยุกันก่อนก็ได้ ซึ่งในโซเชียลมีเดียก็จะมีข้อมูลลักษณะนี้อยู่ และที่ผ่านมาเกิดเหตุเข้าใจผิด มีการคลาดเคลื่อนของข้อมูล แต่จากคลิปที่ปรากฏที่ยืนยันได้ คือ พฤติกรรมของ ด.ต.จักรวาล ไม่เหมาะสมแน่นอน แต่หากจะได้ข้อเท็จจริงทั้งหมด จะต้องมีการเชิญผู้ที่ถ่ายคลิปมาให้ข้อเท็จจริงประกอบด้วย" พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าว
ส่วนการตรวจสอบว่ามีการตั้งด่านอย่างถูกต้องหรือไม่นั้น พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า กรณีนี้ไม่ได้เป็นการตั้งด่าน เป็นการจับกุมธรรมดา ซึ่งเป็นคำสั่งของตนเอง ที่สั่งให้ตำรวจจราจรทุกนายลงพื้นที่ในช่วงเย็นหลังเวลา 15.00 น. ตามจุดวิกฤติต่างๆ ซึ่งจุดที่เกิดเหตุก็เป็นจุดที่มีเส้นทึบ เป็นจุดกลับรถที่มีรถมารอกลับรถเป็นจำนวนมากจึงต้องมีตำรวจจราจรดูแล เวลาจะมีการกลับรถจะให้เรียงคิวกลับไม่ให้มีการปาดหน้า โดยผู้ที่ถ่ายคลิปนี้ได้ทำผิดกฎจราจรโดยมีการไปปาดหน้าแซงคิวรถคันอื่น เพื่อจะกลับรถ ตรงนี้หากตำรวจไม่ดำเนินการจะทำให้เกิดปัญหาจราจรติดขัดส่งผลต่อรถทางตรง แต่เมื่อเรียกก็มีการยั่วยุ โต้เถียงกัน
สำหรับผู้ที่ถ่ายคลิปมีความผิดหรือไม่นั้น พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า ก็ต้องดูว่าเจตนาเขาถ่ายเพื่ออะไร อย่างกรณีนี้อาจถ่ายเพื่อป้องกันตนเอง ซึ่งตำรวจเองหากปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง เราก็ไม่กลัว ก็ไม่เป็นปัญหา การถ่ายคลิปได้เป็นสิทธิ แต่อย่าไปทำคนอื่นเสียหาย หากมีการนำไปอัพโหลดลงในระบบคอมพิวเตอร์ หรือโซเชียลมีเดีย แต่ข้อมูลเป็นเท็จหรือไปสร้างความเสียหายต่อผู้อื่น ก็อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ด้าน พ.ต.ท.ภาษิต กล่าวว่า ที่ผ่านมา ด.ต.จักรวาล มีความเครียดเกี่ยวกับปัญหาครอบครัว เพราะฐานะทางบ้านไม่ดี ภรรยาก็ไม่ได้ทำงานต้องดูแลลูกคนเล็กวัย 5 ขวบ ซึ่งป่วยเป็นออทิสติก ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ที่ผ่านมาตนพยายามที่จะให้กำลังใจ บอกให้สู้เพื่อลูก
"ยอมรับว่า ที่ผ่านมาก็มีดื่มสุราบ้าง แต่ไม่เคยเมาสุราขณะปฏิบัติหน้าที่ และไม่เคยมีพฤติกรรมไม่ดี จนทำให้เสียหายต่อหน้าที่การงาน อยากให้สื่อมวลชนให้ความเป็นธรรม ภาพที่ปรากฏในคลิปคงไม่สามารถยืนยันได้ว่า ด.ต.จักรวาล เมาสุราขณะปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตามตรงนี้เป็นวิจารณญาณของคนที่ดูคลิป ส่วนพฤติกรรมในคลิปยอมรับว่า ไม่เหมาะสมก็ต้องดำเนินการในส่วนนี้ ซึ่งอาจจะเกิดจากความเครียดจากการปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตามตนในฐานะผู้บังคับบัญชาได้สั่งให้ ด.ต.จักรวาล เขียนรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว" พ.ต.ท.ภาษิต กล่าว
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า ตนเองได้ดูคลิปดังกล่าวแล้ว จึงได้เรียก พ.ต.ท.ภาษิต และ ด.ต.จักรวาล ซึ่งเป็นตำรวจที่ปรากฏในคลิป มาชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้น เบื้องต้นได้รับการชี้แจงว่าเป็นการจับกุมข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายจราจรตามปกติ โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา เหตุเกิดบริเวณจุดกลับรถ ซ.ลาดพร้าว 86 ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งได้มีการยั่วยุกันจึงไม่ได้มีการจับกุม จากการสอบถาม ด.ต.จักรวาล ยืนยันว่าไม่ได้มีการเมาสุราขณะปฏิบัติหน้าที่ และก่อนที่จะมาเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ก็ไม่ได้มีการดื่มสุราแต่อย่างใด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่า ด.ต.จักรวาล ซึ่งเป็นตำรวจที่ปรากฏในคลิปมีอาการเมาสุราจริงหรือไม่ โดยตนได้สั่งการให้ ผกก.สน.วังทองหลาง ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ต้องดูอาการของตำรวจนายนี้ก่อนว่า โดยปกติมีบุคลิกลักษณะอย่างไร แต่โดยปกติ ด.ต.จักรวาล เป็นคนที่พูดจาเสียงยานๆ หน้าแดงอยู่ตลอดเวลา และมีความผิดปกติที่กระดูกสันหลังทำให้เวลาเดินลักษณะคล้ายคนเมา อาการทั่วไปก็ดูแปลกๆ แต่ที่ยืนยันได้คือพฤติกรรมที่แสดงออกรวมทั้งคำพูดที่ปรากฏในคลิป ไม่เหมาะสมอย่างแน่นอน ซึ้่งตรงนี้ได้สั่งให้ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยด้วย โดยระหว่างนี้จะให้พักการปฏิบัติหน้าที่ โดยให้ย้ายมาช่วยงานธุรการ
"ขณะนี้ยังไม่สรุปว่า ด.ต.จักรวาล เมาสุรา ขณะปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการก่อน ซึ่งจะบอกว่าเขาเมาเลยก็คงไม่ได้ ต้องมีพยานซึ่งอาจเป็นตำรวจที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุมายืนยันว่าในวันเกิดเหตุ ด.ต.จักรวาล ได้ทำงาน แล้วทำงานอย่างไร มีใครที่ทำงานอยู่ด้วยกัน มีการดื่มสุราหรือไม่ นอกจากนี้จะเชิญผู้ที่ถ่ายคลิปมาให้การเป็นพยานด้วย เพราะเราดูคลิปซึ่งเป็นเหตุการณ์ในท่อนหลัง ส่วนในท่อนแรกเราไม่ได้ดู อาจมีการพูดจายั่วยุกันก่อนก็ได้ ซึ่งในโซเชียลมีเดียก็จะมีข้อมูลลักษณะนี้อยู่ และที่ผ่านมาเกิดเหตุเข้าใจผิด มีการคลาดเคลื่อนของข้อมูล แต่จากคลิปที่ปรากฏที่ยืนยันได้ คือ พฤติกรรมของ ด.ต.จักรวาล ไม่เหมาะสมแน่นอน แต่หากจะได้ข้อเท็จจริงทั้งหมด จะต้องมีการเชิญผู้ที่ถ่ายคลิปมาให้ข้อเท็จจริงประกอบด้วย" พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าว
ส่วนการตรวจสอบว่ามีการตั้งด่านอย่างถูกต้องหรือไม่นั้น พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า กรณีนี้ไม่ได้เป็นการตั้งด่าน เป็นการจับกุมธรรมดา ซึ่งเป็นคำสั่งของตนเอง ที่สั่งให้ตำรวจจราจรทุกนายลงพื้นที่ในช่วงเย็นหลังเวลา 15.00 น. ตามจุดวิกฤติต่างๆ ซึ่งจุดที่เกิดเหตุก็เป็นจุดที่มีเส้นทึบ เป็นจุดกลับรถที่มีรถมารอกลับรถเป็นจำนวนมากจึงต้องมีตำรวจจราจรดูแล เวลาจะมีการกลับรถจะให้เรียงคิวกลับไม่ให้มีการปาดหน้า โดยผู้ที่ถ่ายคลิปนี้ได้ทำผิดกฎจราจรโดยมีการไปปาดหน้าแซงคิวรถคันอื่น เพื่อจะกลับรถ ตรงนี้หากตำรวจไม่ดำเนินการจะทำให้เกิดปัญหาจราจรติดขัดส่งผลต่อรถทางตรง แต่เมื่อเรียกก็มีการยั่วยุ โต้เถียงกัน
สำหรับผู้ที่ถ่ายคลิปมีความผิดหรือไม่นั้น พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า ก็ต้องดูว่าเจตนาเขาถ่ายเพื่ออะไร อย่างกรณีนี้อาจถ่ายเพื่อป้องกันตนเอง ซึ่งตำรวจเองหากปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง เราก็ไม่กลัว ก็ไม่เป็นปัญหา การถ่ายคลิปได้เป็นสิทธิ แต่อย่าไปทำคนอื่นเสียหาย หากมีการนำไปอัพโหลดลงในระบบคอมพิวเตอร์ หรือโซเชียลมีเดีย แต่ข้อมูลเป็นเท็จหรือไปสร้างความเสียหายต่อผู้อื่น ก็อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ด้าน พ.ต.ท.ภาษิต กล่าวว่า ที่ผ่านมา ด.ต.จักรวาล มีความเครียดเกี่ยวกับปัญหาครอบครัว เพราะฐานะทางบ้านไม่ดี ภรรยาก็ไม่ได้ทำงานต้องดูแลลูกคนเล็กวัย 5 ขวบ ซึ่งป่วยเป็นออทิสติก ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ที่ผ่านมาตนพยายามที่จะให้กำลังใจ บอกให้สู้เพื่อลูก
"ยอมรับว่า ที่ผ่านมาก็มีดื่มสุราบ้าง แต่ไม่เคยเมาสุราขณะปฏิบัติหน้าที่ และไม่เคยมีพฤติกรรมไม่ดี จนทำให้เสียหายต่อหน้าที่การงาน อยากให้สื่อมวลชนให้ความเป็นธรรม ภาพที่ปรากฏในคลิปคงไม่สามารถยืนยันได้ว่า ด.ต.จักรวาล เมาสุราขณะปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตามตรงนี้เป็นวิจารณญาณของคนที่ดูคลิป ส่วนพฤติกรรมในคลิปยอมรับว่า ไม่เหมาะสมก็ต้องดำเนินการในส่วนนี้ ซึ่งอาจจะเกิดจากความเครียดจากการปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตามตนในฐานะผู้บังคับบัญชาได้สั่งให้ ด.ต.จักรวาล เขียนรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว" พ.ต.ท.ภาษิต กล่าว