นครปฐม - ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดโครงการสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็ก และเยาวชนเข้าสู่การขี่รถซิ่งภายใต้ชื่อ From แว้น to Valunteer โดยตำรวจภาค 7 นำร่องจังหวัดนครปฐม และราชบุรีเป็นต้นแบบ พร้อมนำเยาวชน 300 คน ปฏิญาณไม่ซิ่งบนถนน พร้อมรับความรู้ด้านการขับขี่ปลอดภัยตามกฎจราจร
วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) และโฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปเป็นประธานในการเปิดโครงการสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็ก และเยาวชนเข้าสู่การขี่รถซิ่งภายใต้ชื่อ “From แว้น to Valunteer” โดยตำรวจภูธรภาค 7 โดยมี พล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.ภ.7 รรท.ผบก.ภ.จว.นครปฐม นายกำธร ตุ้งสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กต.ต.ภ.จว.นครปฐม ให้การต้อนรับ
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า การเปิดโครงการดังกล่าวเนื่องจากในปัจจุบันมีการขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะที่มีลักษณะแข่งขัน ส่งเสียงดัง ตลอดจนขับขี่หวาดเสียว ก่อความเดือดร้อนแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ในบางครั้งมีผู้เสียชีวิตจากการสัญจรไปมาบนถนน หรือบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ เกิดเป็นภาระของสังคม ชุมชน ครอบครัวที่ต้องคอยดูแล
ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทาโครงการ “สร้างภูมิคุ้มกันมิให้เด็กและเยาวชนเข้าไปสู่การขับขี่รถซิ่ง From แว้น to Volunteer” ขึ้น เพื่อให้เด็ก และเยาวชนตระหนักถึงการขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัย ให้เด็กและเยาวชนเข้าใจถึงการขับขี่รถอย่างปลอดภัย และเป็นไปตามกฎหมาย โดยได้ทำการฝึกอบรมเด็กและเยาวชนในเขตพื้นที่จังหวัดนครปฐม และจังหวัดราชบุรี จำนวน 300 คน ให้ได้รับความรู้ ความเข้าใจถึงการขับขี่อย่างปลอดภัย เป็นการบรรยายประกอบสื่อต่างๆ พร้อมทั้งสาธิตตัวอย่าง ชนิดประเภทของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น กฎหมายจราจรที่เกี่ยวข้อง การขับขี่อย่างปลอดภัย ตลอดจนช่องทางในการแจ้งข่าวอุบัติเหตุทางถนน และการขับขี่รถที่ก่อความรำคาญให้แก่ประชาชนทั้งในทางทฤษฎี และปฏิบัติ ให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจร ปรับเปลี่ยนความคิด และพฤติกรรมของเยาวชน
ในการอบรมจะมีการสาธิตการขับขี่รถอย่างปลอดภัย การใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในการแจ้งข่าวสารอุบัติเหตุทางถนน หรือการขับขี่รถที่ก่อความรำคาญให้แก่ประชาชน คาดว่าผลที่จะได้รับหลังโครงการ เด็กและเยาวชนจะตระหนักถึงการขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัย เข้าใจถึงการขับขี่รถอย่างปลอดภัย และเป็นไปตามกฎหมาย
“โครงการนี้ถือเป็นโครงการที่เป็นโครงการแรกที่มีการจัดขึ้นในประเทศ และจะมีการดำเนินการเพื่อเป็นโมเดล หรือต้นแบบให้แก่จังหวัดอื่นๆ ได้มีการดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มีเยาวชนเข้ามาร่วมโครงการ และจะได้เห็นภาพการเปิดเวทีให้เยาวชนที่ชื่นชอบความเร็วได้มีสนามแสดงออกเช่นดังจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีสนามให้ได้แสดงออก ซึ่งทราบว่า จังหวัดนครปฐมนั้นมีสนามสำหรับหรับแข่งขันรถจักรยายนต์ ก็จะได้ให้มีการประสานสนามและช่วงเวลาที่เหมาะสมเปิดให้เยาวชนได้เข้าไปทำการขับขี่ และทำการแข่งขันโดยจะไม่ได้ออกมาแข่งขันบนท้องถนน วันนี้ยินดีมากที่เห็นกลุ่มเยาวชนได้เข้ามาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้คำสัญญาว่าจะไม่ซิ่งบนท้องถนนด้วย” ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าว