ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้การโคราชสั่งตำรวจทุกโรงพักตั้งด่านกวดขันจับกุมเด็กแว้นซิ่งจักรยานยนต์ป่วนเมือง เผยที่ผ่านมาจับกุมได้ตลอด ระบุหากพบเป็นเยาวชนผู้ปกครองต้องรับผิดชอบด้วย เผย ถ.มิตรภาพ ช่วงบายพาสแยกปักธงชัย-จอหอ เป็นแหล่งประลองความเร็ว นัดหมายกันผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ฝากเด็กแว้นสร้างความเดือดร้อนผู้อื่นเป็นเรื่องไม่ควรทำ
วันนี้ (10 มิ.ย.) พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา เปิดเผยถึงมาตรการกวดขันจับกุมกลุ่มเด็กวัยรุ่นรวมตัวกันขับขี่รถจักรยานยนต์ประลองความเร็วสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนว่า ที่ผ่านมาได้มีการตรวจจับกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์แข่งขันกันหรือกลุ่มเด็กแว้นในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่พบมีการจับกุมอยู่ในพื้นที่รอบนอกเขต อ.เมืองนครราชสีมา
ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้ตำรวจในทุกพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมาทั้ง 51 โรงพักใน 32 อำเภอได้มีการตั้งด่านตรวจ และประสานกำลังกัน หากพบมีข้อมูลข่าวสารว่าจะมีการแข่งขันรถจักรยานยนต์ของกลุ่มวัยรุ่นบนเส้นทางต่างๆ หากพบการกระทำความผิดต้องจับกุมดำเนินการตามกฎหมายทุกราย แต่หากเป็นเยาวชนต้องดำเนินคดีต่อผู้ปกครองด้วย ถ้าพบว่ามีลักษณะปล่อยปละละเลย หรือส่งเสริมเยาวชนลูกหลานตัวเอง
พล.ต.ต.ฐากูรกล่าวอีกว่า การกวดขันของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และผู้บังคับบัญชาที่สั่งกำชับมาให้มีการกวดขัน จับกุม โดยเฉพาะวัยรุ่นหากไม่สวมหมวกนิรภัย หรือมีการดัดแปลงรถให้แตกต่างไปจากเดิม เป็นลักษณะรถซิ่ง เช่น ไม่ติดกระจก ดัดแปลงล้อ ดัดแปลงเบาะ จะดำเนินการตรวจยึดดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงทุกราย
อย่างไรก็ตาม จากรายงานพบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นจับกลุ่มซิ่งรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ จ.นครราชสีมาค่อนข้างน้อย ในพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการกวดขันตั้งด่านตรวจก็มักไม่พบกลุ่มซิ่งรถจักรยานยนต์ โดยที่พบมากมักจะเป็นถนนมิตรภาพ ช่วงบายพาสเมืองนครราชสีมา แยกปักธงชัย-จอหอ และถนนมิตรภาพ ช่วง อ.โนนสูง ซึ่งมักเป็นถนนรอบตัวเมือง ส่วนในเขตเมืองไม่พบเนื่องจากตำรวจวางมาตรการแน่นหนา โดยกลุ่มนี้มักนัดหมายกันผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก
“ขอฝากไปยังกลุ่มวัยรุ่นว่าการกระทำที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนเป็นเรื่องที่ไม่สมควรกระทำ และฝากผู้ปกครองให้หมั่นดูแลบุตรหลาน และตัวผู้ขับขี่เองก็ต้องพึงระวังว่าหากเกิดอุบัติเหตุในช่วงซิ่งรถจักรยานยนต์อาจถึงขั้นเสียชีวิตหรือพิการได้ อะไรที่ไม่ดีก็ไม่ควรจะทำเพราะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นด้วย” พล.ต.ต.ฐากูร กล่าวในตอนท้าย