ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา ปิดแดนลบ ผลจากตัวเลขยอดการส่งออกผู้ผลิตรถยนต์ของสหรัฐเดือนกุมภาพันธ์ลดลง ทั้งฟอร์ด, โตโยต้ามอเตอร์, ฮอนด้า, ไครสเลอร์ เฟียต และนิสสัน ทั้งหมดมีรายงานออกมาที่ยอดขายซบเซาลง ดาวโจนส์ ลดลง 85.26 จุด หรือ -0.47 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 18,203.37 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 9.61 จุด หรือ -0.45 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 2,107.78 จุด ด้าน แนสแด็ก ลดลง 28.2 จุด หรือ -0.56 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 4979.90 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐไร้ปัจจัยทางเศรษฐกิจชี้นำตลาดเมื่อคืนนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่จึงหันไปให้ความสำคัญกับการรายงานยอดขายรถยนต์ที่ออกมาต่ำเกินคาด อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในเดือนก.พ.ซึ่งส่งผลให้อุปสงค์ในรถยนต์ปรับตัวลดลง
ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ งวดส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ +1.88 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 50.52 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากความไม่สงบในลิเบีย และปริมาณคลังสำรองเชื้อเพลิงสหรัฐ ที่มากขึ้นเรื่อยๆ
ด้านเบรนท์ลอนดอน ส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.02 ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นหลังจากนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภาสหรัฐว่า “การไม่ทำข้อตกลงกับอิหร่านจะดีกว่า" พร้อมกับเรียกร้องให้การทำข้อตกลงใดๆต้องมีผลบังคับให้อิหร่านยกเลิกโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม
ทั้งนี้ นายจอห์น เคอร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐกำลังอยู่ระหว่างการประชุมรอบใหม่ระหว่างกลุ่ม P5+1 ซึ่งประกอบไปด้วยสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน บวกเยอรมนี กับอิหร่านในสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเปิดหาข้อยุติในการทำข้อตกลงในประเด็นนิวเคลียร์
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การสู้รบในซีเรีย หลังรัฐบาลซีเรียได้เปิดฉากการโจมตีทางอากาศที่ท่าเรือเอส ไซเดอร์ ซึ่งปิดทำการมาตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่ผ่านม
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก สหรัฐ ลดลง 3.80 ดอลลาร์ หรือ -0.31 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1204.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่เชื่อว่าการรายงานข้อมูลการจ้างงานในวันศุกร์นี้จะมีผลออกมาในเชิงบวก เมื่อพิจารณาจากการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวกในระยะนี้ของสหรัฐ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ข้อมูลการจ้างงานที่เป็นบวกจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ขณะที่นักวิเคราะห์บางกลุ่มระบุว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.นี้
ตลาดหุ้นสหรัฐไร้ปัจจัยทางเศรษฐกิจชี้นำตลาดเมื่อคืนนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่จึงหันไปให้ความสำคัญกับการรายงานยอดขายรถยนต์ที่ออกมาต่ำเกินคาด อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในเดือนก.พ.ซึ่งส่งผลให้อุปสงค์ในรถยนต์ปรับตัวลดลง
ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ งวดส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ +1.88 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 50.52 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากความไม่สงบในลิเบีย และปริมาณคลังสำรองเชื้อเพลิงสหรัฐ ที่มากขึ้นเรื่อยๆ
ด้านเบรนท์ลอนดอน ส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.02 ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นหลังจากนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภาสหรัฐว่า “การไม่ทำข้อตกลงกับอิหร่านจะดีกว่า" พร้อมกับเรียกร้องให้การทำข้อตกลงใดๆต้องมีผลบังคับให้อิหร่านยกเลิกโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม
ทั้งนี้ นายจอห์น เคอร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐกำลังอยู่ระหว่างการประชุมรอบใหม่ระหว่างกลุ่ม P5+1 ซึ่งประกอบไปด้วยสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน บวกเยอรมนี กับอิหร่านในสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเปิดหาข้อยุติในการทำข้อตกลงในประเด็นนิวเคลียร์
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การสู้รบในซีเรีย หลังรัฐบาลซีเรียได้เปิดฉากการโจมตีทางอากาศที่ท่าเรือเอส ไซเดอร์ ซึ่งปิดทำการมาตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่ผ่านม
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก สหรัฐ ลดลง 3.80 ดอลลาร์ หรือ -0.31 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1204.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่เชื่อว่าการรายงานข้อมูลการจ้างงานในวันศุกร์นี้จะมีผลออกมาในเชิงบวก เมื่อพิจารณาจากการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวกในระยะนี้ของสหรัฐ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ข้อมูลการจ้างงานที่เป็นบวกจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ขณะที่นักวิเคราะห์บางกลุ่มระบุว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.นี้
